วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

Fic Infinite i'm bad husband Part II With NC


ณ คฤหาสตระกูลคิม แอลที่นั่งเล่นอยู่ในห้องรับปะทานอาหารก็ได้ใช้มือ โบกในอากาศเพื่อเลื่อนเมาส์ผ่านระบบ Motion Control  ของจอ Smart TV จาก Samsung เพื่อคลิกเข้าไป ดูหุ้นที่ตัวเองถือครองเอาไว้ ตนสายตาเหลือบไปเห็นคนที่กำลังเดินเข้ามาแอลจึงได้ใช้คำสั่งเสียงปิด Smart Tv Series8 ขนาด 55 นิ้วลง
“Hi TV Power Off” เมื่อแอลสั่งให้ทีวีปิดเสร็จก็เดินออกไปหานัมที่เพิ่งเข้ามาในบ้านพร้อมกับดงอุน
“กว่าจะมานะ นั่งก่อนสิ่รับรถวันไหนล่ะ” แอลได้เชื้อเชิญให้ดงอุน นั่งลงที่เก้าอี้ห้องรับแขก ดงอุนจึงนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงกันข้ามกับแอล
“พรุ่งนี้ครับ แปลกนะครับทำไมรับเร็วจัง” แอลได้แต่ยิ้มเบาๆ แล้วไม่พูดอะไร
“ที่รักกินข้าวยัง” นัมได้ขยับตัวเขามานั่งใกล้ๆแอลแล้วถามอีกคน ตามปกติ
“ยังเลยว่าจะพาไปกินข้างนอกน่ะ รอที่รักกับเพื่อนนี่แหละ”
“อืม... ก็ดีนะที่รัก อุ่น เดี๋ยวเราไปกินข้าวกันเนอะ” อูฮยอนได้ส่งซิกให้ดงอุนรู้ เพื่อที่จะได้เล่นละครต่อให้มันเนียนขึ้น
“อ่า... ก็ได้อูฮยอน” เมื่อพูดจบแอลจึงได้ลุกขึ้นไปที่ห้องของตัวเอง โดยบอกกับทั้งสองคนให้ไปก่อนเดี๋ยวจะตามไป เมื่อแอลมาถึงห้องแอลได้หยิบ Galaxy S III สีขาวโทรหาซองจง เพียงแค่เลือกชื่อแล้วเอาโทรศัพทืแนบหน้า
“ซองจง งานเริ่มแล้ว”
“อย่าลืมตามที่ตกลงไว้ล่ะ”
“อย่า คิม มยองซู คนนี้ไม่เคยเบี้ยวใคร” แล้วการสนทนาก็จบลง แล้วเก็บ galaxy S III ลงใส่กระเป๋า พร้อมเดินไปหยิบ ยาชาที่วางไว้อยู่บนโต๊ะทำงานใส่กระเป๋า Hermes รุ่น Cabalicol สีดำราคา 1,050 ปอนด์ แล้วเดินไปที่ BMW Series 6 Grand Coupe ที่ออกแนวสปอตหรู สีดำขับออกไปด้วยโหมด Sport+


ณ ภัตตาคารPatio ในโรงแรม Best Western Premier Guro เขตกูโร
“ทำไมเมียที่รักยังไม่มานะ” ดงอุนได้กล่าวถามอูฮยอน เชิงจิกกัดเล็กน้อย
“รถติดมั้ง” อูฮยอนก็ตอบไปตามความน่าจะเป็น ด้วยเวลาที่เป็นช่วงเย็นๆใกล้ค่ำแบบนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องรถติดอยู่แล้ว แต่ไม่นานเสียงล้อเสียดสีกับถนนจากการเบรคด้วยความเร็วสูงก็ได้ดังขึ้น ทำให้คนทั้งโรงแรมหันมามองที่ต้นเสียงคือ BMW Series6 ของแอล แต่ถามว่าเจ้าตัวได้แคร์สายตาคนที่มองหรือไม่ คำตอบคือไม่แอลได้ใส่ใจหรือแคร์ใครเลย ถึงคนจะด่าก็ไม่สนใจเพราะ ตัวเองคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่นี่พนักงานทุกคนจึงค่อนข้างเกรงกลัวแอล
“สงสัยจะมาแล้ว” ดงอุนพูดขึ้นเบาๆ ในเชิงประโยคคำถาม
“ไม่ต้องบอกก็รู้” อูฮยอนเลยตอบด้วยความเคยชินการขับรถเร็วของแอล และเขาจำได้ดีเพราะลูกน้องของอูฮยอนทุกคนเคยได้ยินเสียงนี้เมื่อ เดือนที่แล้ว วันที่แอลบุกมาหาเขาถึงที่ทำงาน
“ที่รักมาแล้วหรอครับ นั่งๆๆๆ” แอลได้นั่งลงที่ข้างๆ อูฮยอนพลางมองไปเห็นซองจงที่อยู่โต๊ะไกลออกไป และก่อนที่จะเข้ามาซองจงที่เห็นแอลเดินเข้ามาได้พยักหน้าให้อีกคน เป็นคำตอบว่าพร้อมที่จะลงมือแล้ว ขณะที่แอลกับซองจงกำลังเล่นละครเป็นลูกค้าในโรงแรมนี้ เพื่อหลอกอูฮยอนกับดงอุน ตอนนี้อาหารที่สั่งไปเริ่มมาเสริฟแล้ว จนผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงซองจง จึงเริ่มลงมือเดินมาหาดงอุน แต่ไม่ได้เดินมาคุยดีๆ ร่างบางได้กระชากผมของดงอุนลุกออกจากโต๊ะสร้างความตกใจให้กับอูฮยอนมาก ซองจงได้หันมาหาแอล แอลจึงได้พยักหน้าเบาๆว่าถูกตัวแล้วไม่ต้องยั้ง เมื่อซองจงรับทราบอย่างนั้นซองจงจึงได้เหวี่ยงดงอุนไปชนโต๊ะข้างๆ แล้วการตบตีก็เริ่มขึ้นแอลได้แต่มองแล้วกระตุกยิ้มมุมปากบาง
“ที่รักจะลุกไปไหนหรอ” แอลเมื่อเห็นว่าอูฮยอนกำลังจะลุก จึงได้หยิบยาชาในกระเป๋าแล้วฉีดไปที่ขาของอูฮยอน
“อ่ะ ที่รักทำอะไรน่ะ” นัมได้หันมามองแอลด้วยความ งง ว่า แอลต้องการที่จะทำอะไรขาของเขาที่เริ่มไร้ความรู้สึกตอนนี้ ทำให้เขาไม่สามารถไปห้ามซองจง กับ ดงอุนได้ แอลที่ได้ฉีดยาให้อูฮยอนเสร็จแล้ว จึงได้เดินไปหาซองจง
“ซองจงเหนื่อยไหม”
“เหนื่อยสิ่ ไม่บอกก่อนล่ะว่าตัวใหญ่” ดงอุนที่โดนซองจงคร่อมอยู่ตอนนี้ยังไม่ได้พูดอะไรแต่พยายามที่จะรวบรวมสติอยู่
“งั้นชั้นให้ตัวช่วยนะ” แอลได้ส่งซิกให้พนักงานของโรงแรมมาล็อกตัวดงอุนไว้ 4 คน และมี 2 คนที่เอาเครื่องทุนแรงมาให้ซองจง อันได้แก่ แซ่ เกลือ กระดาษทราย และซองจงก็ไม่รอช้าที่จะจัดการกับดงอุน
“คิดซะว่าเป็นชั้นตอนกับการการนายละกันซองจง” แอลพูดไว้แค่นี้แล้วเดินจากไป ปล่อยให้อูฮยอนมอง ดงอุน ของเก็บคนปัจจุบัน กับ ซองจง ของที่เคยรัก ตบตีกันโดยห้ามอะไรไม่ได้เพราะขา ได้ชาจนเดินไม่ได้
“แอล นายเอาอีกแล้วนะ” จงฮยอนได้โทรมาหาแอลทันทีเมื่อทราบข่าวจากเลขาที่ให้จัดการเรื่องภายในโรงแรม
“ข่าวเร็วจังนะ”
“นายก็ไม่ควรจะทำแบบนั้น”
“ถ้าพี่จะโทรมาบ่น ผมวางนะ”
“ดะ.. เดี๋ยวๆๆๆ แค่จะเตือนเฉยๆนะ นั้นที่ทำงาน”
“ผมไม่สน คนเราเยอะว่า นั้นแหละที่ผมต้องการแค่นี้นะผมขับรถอยู่” แอลได้กดวางสายลงจากการกดปุ่ม iDrive ร่างบางไม่ได้ทำไรมาแค่ขับรถกลับไปที่บริษัทเพื่อจัดการเอกสารบางอย่าง

“คุณแอลต้องการอะไรคะ” เลขาหญิงประจำตัวของแอลที่นั่งอยู่ในออฟฟิต หน้าห้องของแอลได้กล่าวถาม เมื่อแอลกำลังเดินเข้าห้องทำงาน
“เรียกจีโอมาพอ” แล้วแอลก็เดินเข้าห้องโดยไม่เปิดไฟ เพื่อที่จะดูหนังโดยใช้ Projector จาก Samsung และชุด Home Theater ระบบ Blu-Ray จาก Samsung เช่นเคย
“ครับคุณแอล” จีโอที่ได้เดินเข้ามาในห้องได้กล่าวทักทายตามปกติ
“นายมี มือปืนไหม”
“อ่า.... มีครับ คุณแอลจะ”
“คนนี้” แอลได้หยิบ Galaxy Note 2 ส่งรูปเข้าจอ Projector ผ่านโปรแกรม All Share
“ไปจัดการซะ เอาแค่..... สั่งสอนพอ อ้อเอาเทปบันทึกเสียงของนัมมาด้วย”
“ผมจะจัดการให้ครับ” จีโอเมื่อทราบคำสั่งแล้วก็เดินออกไปจากห้อง โดยโค้งให้หนึ่งที
“นัมคุณไม่รอดแน่” แล้วแอลก็หยิบเอกสารที่จะต้องใช้กลับบ้านไป

ณ คฤหาสตระกูลคิม นัมที่ขาหายชาแล้วได้กลับมาถึงบ้านแต่ไม่พบกับแอลจึงนั่งรออยู่ที่โถงหน้าบ้าน เมื่อเห็นแอลขับรถเข้ามา นัมจึงเดินเข้าไปเปิดประตูให้
“ที่รัก...” ไม่มีเสียงตอบกลับจากอีกคน มีเพียงแค่ รีแอคชั่นจากอีกคนเป็นการปิดประตูรถแล้ว ขับรถพุ่งไปข้างหน้าแล้วเปิดประตูให้กระแทกเข้าใส่อูฮยอน
“ที่รักอ่ะ..” อูฮยอนได้เดินเข้ามาหาอีกคนเมื่อเห็นว่า แอลลงจากรถแล้ว
“มีอะไร” แอลได้พูดเสียงเย็นและไม่เป็นมิตรกับอีกคน พร้อมหันมาด้วยสายตาจิกกัดแบบสุดๆ
“นั่นเพื่อนเค้าจริงๆนะ”
“กล้าพูดว่าเพื่อนหรอ Hi TV Power On” แอลได้สั่ง Smart TV Series 9 ในห้องนั่งเล่นนี้ให้ทำการเปิดเครื่อง แล้วหยิบ Galaxy Note2 ขึ้นมาเปิดเสียงที่ให้ จีโอ ดักฟังโทรศัพท์ของนัม ไว้ผ่านระบบ All Shared ให้เล่นบน Smart TV
“ฟังเสร็จแล้ว ค่อยมาคุย” แล้วแอลก็เดินเข้าไปที่ห้องทำงานเพื่อที่จะไปอ่านเอกสารแล้วทำการคิดว่าควรจะ อนุมัติ หรือ ฉีกทิ้งไป ส่วนอูฮยอนได้แต่อึ้งกับ เสียงที่กำลังได้ยินตอนนี้เขาไม่คิดว่าแอลจะรู้มาโดยตลอด
‘ดงอุนน่ารักที่สุดเลย’
‘น่ารักกว่าแอลของพี่ป่าว’
‘แน่นอนที่สุด’
‘พูดแบบนี้น่าหอมที่สุด’ เสียงที่ยังคงเล่นไปเรื่อยๆตั้งแต่วันที่เขาคุยกับดงอุนทำให้อูฮยอนเริ่มขาสั่น
เพราะสิ่งที่ได้ยินมันทำให้เขากลัว กลัวที่จะเสียแอลที่เป็นรักครั้งแรกไป จะเรียกว่าเขาโลภ หรือ มากด้วยตันหาหรอ มันคงจะใช่ทั้งที่ไม่อยากผูกพันแต่มันก็ทำไม่ได้ นัมจึงได้ปิดทีวีแล้วเดินไปหาแอลในห้องทำงาน แต่พบว่าห้องล็อค บ่งบอกว่าแอลกำลังเครียดเรื่องงานอยู่ ไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่ง ซึ่งอย่างที่นัมรู้ดีว่าร่างบางเมื่อได้ยุ่งแล้วพรุ่งนี้เช้าก็ยังไม่เสร็จ มันแทบหมดโอกาสของเขาที่จะแก้ตัว
ณ เช้าวันรุ่งขึ้น แอลที่สลบคาพื้นในห้องทำงานของบ้านตัวเองขณะที่ทำการ Video Conference กับลูกค้าที่อยู่อีกฟากนึง โดยก่อนหน้านั้น ตี3กว่าๆตามเวลาประเทศเกาหลี ขณะที่แอลกำลังคุยกับลูกค้าอยู่ เลือดกำดาวก็ไหลออกมา จากจมูก แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ได้สนใจเพราะในสมองตอนนี้มีแต่งาน เจ้าตัวจึงเร่งพยายามทำพรีเซนต์งานให้อีกฝั่งให้เสร็จเร็วที่สุด จนกระทั่งตอนตี5แอลได้ล้มลง ไปหลังจากที่ทำการ Video Conference เสร็จ นัมอูที่นั่งเฝ้าแอลอยู่หน้าห้องทำงานมาทั้งคืนจนเผลอหลับ จนตอนนี้ 8 โมงแล้วซึ่งเขาพบว่าแอลไม่เคยตื่นสายหรือออกจากห้องช้าแบบนี้ เมื่อผิดสังเกตุแบบนี้นัมจึงรีบวิ่งหาพ่อบ้านให้ช่วยกันหากุญแจห้องทำงานของแอล จึงได้พบร่างบางนอนสลบอยู่ที่พื้น เมื่อเข้าไปจับตัวอีกคนพบว่าแอลตัวร้อนมาก
“พ่อบ้านเรียกรถพยาบาล”
“แอล ตื่นๆๆ” ขณะที่พ่อบ้านรีบวิ่งไปโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลนั้น นัมก็ได้พยายามเรียกสติของแอล จนตอนนี้รถพยาบาลมาถึงแล้วแอลก็ยังคงไม่ฟื้นขึ้นมา
“รบกวน ญาติรอตรงนี้นะคะ” เมื่อนัมได้มาถึงโรงพยาบาลSamsung(มันมีจริงๆนะเออ) ตรงห้องฉุกเฉินก็ได้ถูก พยาบาลห้ามไว้ไม่ให้เข้าไปรบกวนการทำงานของ เจ้าหน้าที่

20 นาทีต่อมา
“คุณหมอแอลเป็นไงบ้างครับ”
“ตอนนี้ปลอดภัยดีครับ แค่เป็นไข้หวัดใหญ่แล้วเครียดหนักจึงทำให้เกิดอาการหมดสติไปน่ะครับ”
“นานไหมครับกว่าจะหาย”
“คงต้องให้อยู่ใน โรงพยาบาลสักพักล่ะครับ”
“อ่าครับ ขอบคุณครับ” นัมโค้งให้หมอ ก่อนที่หมอจะเดินออกไปหาคนไข้รายอื่นต่อ ตอนนี้แอลได้มาอยู่ห้องระดับ ท็อปของโรงพยาบาลแล้วนัมที่เพิ่งเดินเข้ามาหา
“แอล....” นัมพยายามเรียกชื่ออีกคนที่นอนอยู่บนเตียงภายใต้ชุดของโรงพยาบาล
“....”
“ที่รักจะไม่ตื่นขึ้นมาคุยกับผมหน่อยหรอ”
“นัม น้องพี่เป็นไงบ้าง” ขณะที่นัมกำลังนั่งกุมมือของแอลอยู่ข้างเตียง จงฮยอนกับมินฮยอกพี่และพี่เขยของแอลก็ได้ เดินเข้ามาอย่างเร่งรีบด้วยความเป็นห่วงน้องตัวเอง
“เป็นไข้หวัดใหญ่กับเครียดครับ เลย...หมดสติไป”
“นายนี่จริงๆเลย หาเรื่องให้แอลได้ตลอด”
“แอลรีบๆฟื้นมาด่า ผัวแกเร็วๆล่ะ” คำพูดที่สอดเสียดนัมทำให้นัมได้เห็นด้านที่เขาไม่เคยเห็นของ จงฮยอนพี่ของแอล มาก่อน
“ผมขอโทษครับ” มินฮยอกที่เงียบและเป็นผู้ฟัง ก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาจึงได้ปลีกตัวไปนั่งที่ห้องพักของญาติ
“มินฮยอก.... เค้าง่วงอ่า” จงฮยอนที่ตอนนี้เบื่อหน้าน้องเขยตัวแสบสุดปลาไหล ได้เข้ามาหามินฮยอกที่ห้องพักญาติ แล้วเอาหัวอิงไหล่ร่างสูงไว้


“พี่ก็นอนดีๆสิ่ครับมาหนุนไหล่ผมทำไม ทำไมไม่หนุนตักผม” แล้วร่างสูงมินฮยอกก็ขยับตัวออกมาให้จงฮยอนได้เอาหัวลงมาหนุนที่ตัก โดยหารู้ไม่ว่ามีสายตาคู่นึงที่จ้องมอง ด้วยความอิจฉาเล็กน้อยจากห้องพักผู้ป่วย
“ดูพี่คุณกับพี่เขยคุณสิ่ ทำไมเขาหวานกันจัง จะมีไหมที่เราหวานแบบนี้บ้าง มันนานมาแล้วสิ่นะ” นัม ได้เริ่มทบทวนถึงวันที่เขากับแอลจะมาอยู่ด้วยกัน เขาคิดถึงช่วงเวลาที่เขาเคยได้นอนหนุนตักแอล คิดถึงไหล่เล็กๆของแอล และยามที่แอลมาอ้อนขอนอนหนุนตักเขา มาแกล้งเขาเมื่อก่อนนี้ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นแค่อดีตไปแล้ว
“ถ้าผมไม่มีคนอื่นคุณคงไม่เป็นแบบนี้สิ่นะ” นัมได้เอาหน้าซุกลงไปที่มือของแอลที่วางอยู่บนเตียง จนตอนนี้เขาได้เผลอหลับไปแล้วแอลที่ฟื้นมาได้สักพัก พอได้ยินคำที่นัมพูดมาเขาก็ได้นึกถึงช่วงเวลาในอดีตเหมือนกัน เพราะเขาอยากให้มันมีเวลาแบบนั้นอีก เขาจึงพยายามไม่ให้นัมได้มีคนอื่น มือบางข้างที่มีสายน้ำเกลือคาอยู่ได้เอื้อมมาลูบผมอีกคนเบาๆ
“ขอแค่คบไม่ผูกมัดที่รักทำได้ไหม ยอมทุกอย่างให้ที่รักมีความสุข คนที่ต้องวิ่งตามคนนี้เหนื่อยนะ” แอลได้น้ำตาคลอออกมาเบาๆ มินฮยอกที่เห็นว่าแอลฟื้นแล้วแต่ทุกคนในห้องนี้หลับหมด จึงค่อยๆเอาหมอนที่อยู่ไม่ไกลมากมาให้จงฮยอนหนุน แล้วเดินเข้าไปหาแอล
“ฟื้นแล้วหรอ”
“อ้ะ อื้ม” แอลจึงรีบเอามือมาปาดน้ำตาที่คลอออก
“อย่าเครียดให้มันเยอะสิ่ จงฮยอนมันห่วงมากนะ”
“รู้อยู่แล้วถ้านี่ไม่มีเยอะ คงไม่หนักขนาดนี้หรอก” แอลได้เอาสายตามองมาที่นัมเพื่อบอกให้มินฮยอกรู้ว่าหมายถึงใคร
“นายฟื้นแล้วงั้นผมพาจงกลับก่อนนะ พรุ่งจะให้มาเฝ้าใหม่” แล้วมินฮยอกก็เดินไปปลุกจงฮยอนที่ยังตื่นไม่สนิทกลับบ้านไป จนทั้งห้องเหลือแค่ แอล กับ นัมเท่านั้น
“นัม....” แอลได้สะกิดเรียกคนที่นอนกุมมือเขาให้ตื่น
“หา หืม.. ที่รักฟื้นแล้วหรอ”
“ขอบคุณนะที่พามา โรงพยาบาลทีหลังไม่ต้อง”
“ผมมีเมียคนเดียว จะให้ผมทิ้งได้ยังไง”
“เมียคนเดียว แล้วซองจงกับดงอุนล่ะ” แอลได้พูดประชดใส่อีกคนไป เต็มที่
“.....ผมเลิกหมดแล้วครับ”
“ให้มันจริง”
“จริงครับ” นัมได้กดจูบลงที่มือของอีกคน แต่ตอนนี้แอลยังไม่ค่อยมีแรงจึงไม่ได้ขัดขืนอะไร
“ไปนอนไป พรุ่งนี้ค่อยคุย”
“นอนกับที่รักไม่ได้หรอ”
“ไปนอนที่อื่นไม่มีแรงจะเถียงด้วยนะ” เมื่อได้ยินแอลที่กำลังหงุดหงิดเพราะว่าตนไปเซ้าซี้ที่จะขอนอนกับแอล จึงได้เดินคอตกมานอนที่โซฟา ใกล้ๆแทน และไม่มีบทสนทนาจนกระทั่งเช้าของอีกวัน ตอนช่วงตี 5 กว่าๆเพราะอะไรน่ะหรอ

ปี๊บๆๆๆๆ เสียงเครื่อง Infusion pump ที่กำลังเตือนว่าน้ำเกลือใกล้หมดแล้ว ทำให้อูฮยอนและแอลต้องตื่นขึ้นมา นัมจึงเดินไปกด Intercom  เพื่อเรียกพยาบาลให้เข้ามาเปลี่ยนขวดน้ำเกลือ

“มีปัญหาอะไรหรอคะ” เสียงพยาบาลปลายสายได้กดรับอินเตอร์คอมแล้วถาม ตามหน้าที่
“เครื่องมันมีเสียงอ่ะครับสงสัยน้ำเกลือจะหมด”
“ค่ะ เดี๋ยวไปดูให้นะคะ” แล้วทางพยาบาลก็ตัดสายอินเตอร์คอมไป
“เดี๋ยวเขามาเปลี่ยนให้นะที่รัก” อูฮยอนเอามือลูบผมคนที่นอนอยู่บนเตียง แอลได้แต่มองอีกคนงงๆ ไม่นานหลังจากที่วางสายไปพยาบาลก็เดินเข้ามาเปลี่ยนขวดน้ำเกลือให้และเดินจากไป
“แล้วไม่ไปทำงานหรือไง”
“วันนี้วันเสาร์ครับ” แอลที่ทำงานและ ตามล่าคนที่เป็นเล็กเป็นน้อยกับอูฮยอนโดยไม่ดูวันดูคืน เมื่อเจอคำตอนนี้ไปถึงกับไปไม่ถูก สรุปวันนี้ยังไงเขาก็ต้องฟังคำแก้ตัวของอูฮยอนสิ่นะ
“ไม่มีอะไรแล้วก็ไปพักไป” แอลนอนหันหลังให้อีกคนแล้วแกล้งหลับทำเป็นไม่ใส่ใจอีกคน เมื่ออูฮยอนเห็นว่าแอลหลับไปแล้ว จึงได้เดินอ้อมมานั่งอีกฝั่งแล้วนั่งมองหน้าใสของแอลที่ตอนนี้ซีดลง เพราะพิษไข้แล้วนั่งทบทวนตัวเอง

“ทั้งหมดนี้เพราะผมสิ่นะ ผมขอโทษนะ” แอลที่แกล้งหลับเมื่อได้ยินคำขอโทษขออูฮยอนแล้ว อยากจะยกโทษในทันที แต่ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยมาครั้งนึงแล้ว เขาควรที่จะไม่ให้อภัย หรือ ให้อภัยอูฮยอนดี ตอนนี้การตัดสินใจขึ้นอยู่กับแอลเท่านั้นแล้วล่ะ
“ถ้ายกโทษให้จะไปมีใหม่อีกไหม” แอลได้หลับตาพูดขึ้นมาแล้วค่อยๆมองอีกคน
“ผมสัญญาว่าจะไม่มีใครอีกแล้วครับ”
“จำคำพูดไว้ด้วยล่ะ”
“แอล ผมจะลาออกมาทำงานกับคุณนะ” เป็นคำที่ทำแอล งง มากเขาไม่คิดว่าอูฮยอนจะออกจากการเป็น ข้าราชการแล้วมาทำงานกับเขา
“แล้วทำไมถึงออกล่ะ”
“อยากมาดูแลคุณ” เป็นคำที่พอจะทำให้แอลเขินได้บ้างแต่ไม่ใช่ตอนนี้
ก็อกๆๆ เสียงเคาะประตูจากหน้าห้อง พยาบาลที่นำอาหารเช้ามาให้กับผู้ป่วย
“ขอโทษนะคะที่มาขัดกำลังหวานเลยนะคะ” พยาบาลวัยกลางคนได้พูดแซวขึ้น มาทำให้แอลกับอูฮยอน พอที่จะเขินได้บ้าง แอลที่นอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียงได้ยิ้มเบาๆ
“ก็นิดนึงครับ ขอบคุณนะครับ” นัมได้รับถาดอาการมาวางไว้บนโต๊ะอาหารสำหรับ ผู้ป่วย อาหารของโรงพยาบาล สำหรับคนป่วยไข้หวัดใหญ่ก็คงจะหนีไม่พ้น ข้าวต้ม กับ อาหาร รสกลางจนถึงเบสอ่อนๆ นัมที่รับอาหารมาแล้วจึงได้ป้อนให้กับแอล
“หวานกันจังนะ คืนดีกันแล้วหรอ อ่ะนี่พี่เอามาให้” จงฮยอนได้เดินเข้ามาขัด อูฮยอนกับแอลที่ตอนนี้กำลังป้อนข้าวกัน โดยที่อดสงสัยไม่ได้ว่า น้องของเขากับน้องเขยคนนี้ไปคืนดีกันตอนไหน เมื่อเช้านี้หรอและเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเอาของฝากมาเยี่ยมจึงยื่นให้กับอูฮยอน
“พี่ไม่เห็นต้องซื้อมาเลย น้องไม่เป็นไรซักหน่อย” แอลได้บอกปัดเชิงเกรงใจ พี่ของตัวเองว่าซื้อของมาให้ทำไมเยอะแยะเขาคงไม่อยู่โรงพยาบาลนานนักหรอก
“ไม่ได้ซื้อมาให้แกคนเดียวหนิ่ ซื้้อมาให้คนเฝ้าไข้แกด้วย นัมไปพักไปเดี๋ยวดูแลต่อเอง”
“ไม่เป็นไรครับ เมียผม ผมดูแลได้แล้วมินฮยอกไม่ได้มาด้วยหรอครับ”
“มินฮยอกหรอ ยังหาที่จอดรถไม่ได้มั้ง”
“แล้วทำไมพี่ต้องหน้าแดงด้วยอ่ะ” จงฮยอน ขอสตั๊น4วินาที เพราะอันที่จริงเขากับมินฮยอกถึงโรงพยาบาล ได้สักพักแล้วล่ะแต่ที่ยังไม่ขึ้นมาเพราะ
‘มิน นี่มันในรถนะ’ จงฮยอนได้พูดกับอีกคนในเชิงห้ามเพราะว่า หลังจากที่มินฮยอกจอดรถเสร็จ มือที่เลื่อนจากคันเกียร์มันได้มาอยู่ที่ ต้นขาใกล้กับแก่นกายของจงฮยอน
‘เมื่อคืนก็ไม่ได้ทำทำในนี้ไม่มีใครเห็นหรอก รถเราติดฟิล์มหนาจะตาย จอดตรงนี้ไม่มีใครเห็นด้วย’ มินฮยอกได้โน้มหน้าเข้ามาหาอีกคน


‘เมื่อคืนก็ไม่ได้ทำทำในนี้ไม่มีใครเห็นหรอก รถเราติดฟิล์มหนาจะตาย จอดตรงนี้ไม่มีใครเห็นด้วย’ มินฮยอกได้โน้มหน้าเข้ามาหาจงฮยอนแล้ว กดจูบตามใบหน้าหวานของจงฮยอน มือของมินฮยอกได้ค่อยๆปลดเสื้อเชิ้ต ของจงฮยอนออกไล่ลงไปจนถึงยอดอกของอีกคนแต่งวดนี้มันไม่ใช่แบบ ทุกครั้งมินฮยอกเลือกที่จะเมินผ่านยอดอกสีสวยนั้น แล้วเอื้อมมือไปหยิบไวเบรเตอร์ ตรงช่องเก็บของหลังเก้าอี้จงฮยอน มาพร้อมเจลหล่อลื่น มินฮยอกบีบเจลแล้วทาลงบนปลายไวเบรเตอร์ส่วนนึง มินฮยอกได้เปิดเครื่องแล้วเอามาวนรอบปริเวณยอดอกของอีกคน
'อ๊า~~' ท่ามกลางเสียงของไวเบรเตอร์ที่กำลังสั่นอยู่ จงฮยอนได้ครางออกมา เพราะมันเสียวอย่างที่ไม่เคยเจอ ถ้าถามเขาว่า เซ็กทอย กับ มินฮยอกเอง อะไรสร้างความเสียวให้ร่างยางได้มากกว่า ตอนนี้ร่างบางอยากตอบว่ามินฮยอกเพราะ มันให้ความรู้สึกที่ดีกว่า ความที่ต้องการรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่ของเล่นที่ทำตามการออกแบบมา เพื่อสร้างๆๆๆ แต่สุดท้ายเขาต้องทำเอง
'อ่ะ อ้า.... อย่าครางดังสิ่ครับเดี๋ยวคนแถวนี้ได้ยิน' สิ้นคำพูดของมินฮยอก จงฮยองก็ครางออกมาเบาๆกว่าเดิมและมั่นใจว่าเสียของเขาจะไม่ดังออกไปข้างนอก
'แบบนั้นและครับที่รัก' มินฮยอกได้ปิดไวเบรเตอร์แล้วเอามือเลื่อนเก้าอี้อีกคนให้เลื่อนถอยหลังไปพร้อมกับปรับเบาะให้เอนหลังจนสุด จงฮยอนที่รู้ว่าตอนนี้มินฮยอกต้องการอะไรจึงได้ปลดกางเกงลงแต่พื้นที่ๆจำกัดทำให้มันถอดได้มากสุดแค่เข่าเท่านั้น มินฮยอกที่เห็นว่าร่างบางของเขา พร้อมและตอบสนองมาขนาดนี้แล้วจึงได้ ช่วยอีกคนถอดกางเกงออกมาตอนนี้เสื้อผ้าทั้งหมดของจงฮยอน อยู่ที่เบาะนั่งด้านหลังคนขับมันถูกกองเอาไว้ลวกๆ บางส่วนก็อยู่ที่ว่างตรงกระจกหลังรถ กระจกของรถตอนนี้เริ่มเป็นฝ้าเพราะไอร้อนจากตัวทั้ง2คน ประจบกับอากาศข้างนอกที่ค่อนข้างเย็น ทั้งคู่ตอนนี้ราวกับอยู่ในฉากหนังเรื่อง ไททานิก ที่โรสกับแจ๊กได้หนี คนของ เซลดอน ฮอกลีย์ มาอยู่ในรถแล้วได้สร้างพยานรักขึ้นมา และมินฮยอกกับจงฮยอนกำลังทำฉากนั้น จงฮยอนได้เอาปากบางของเขามาครอบแก่นกายหนาของมินฮยอกที่ร่างบางได้รูดซิบและถกลงมาเล็กน้อย ลิ้นบางทำการเลียรอบแก่นกายหนา ราวกับชิมไอติมรสใหม่ว่ามันจะถูกใจเขาหรือไม่ ลิ้นบางเลียตั้งแต่โคนจนถึงปลายยอดของแก่นกาย เลียส่วนที่ไอติมจะละลายง่ายที่สุดคือตรงช่วงปลาย ปลายแก่นกายของมินฮยอกคนนี้กำลังถูกร่างบางเลียวนวอน ด้วยปลายลิ้นราวกับ ร่างบางจงใจที่จะแกล้งเขาเมื่อน้ำสวาทสีใสของมินฮยอกเหมือนจะไหลออกมาจงฮยองจึงเปลี่ยนจากวิธีการเลียเป็น ดูดแก่นกายหนาของมินฮยอก ดูดขึ้นลงราวกับเขากำลังกินไอติมอยู่ ในมือเป็นไอติมที่กินในหน้าร้อนและเป็นรสโปรดของเขา ดูดให้น้ำหวานของไอติมมันออกมา จงฮยอนตอนนี้กำลังทำให้มินฮยอกคนนี้แทบคลั่ง
'อ๊า~~~'
'เปาะๆๆๆ' เสียงที่เกิดจากการสูญอากาศ ที่มาจากการดูดแก่นกายหนาของจงฮยอนตั้งแต่โคนจนสุด เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนนี้มินฮยอกไม่ขอทนที่จะให้ร่างบางกระทำเขาอยู่ฝ่ายเดียว เขาได้ย้ายตัวไปคร่อม จงฮยอนที่ตอนนี้นอนราบไปกับเบาะแก่นกายของมินฮยอกที่ตอนนี้ยังมีน้ำสวาทใสอยู่ที่ปลายแก่นกายและยังมีน้ำลายจากร่างบางที่มาอมและดูดให้เขาเมื่อกี้ เปรียบเสมือนเจลหล่อลื่นช่วยให้เขาสอด แก่นกายเข้าไปในช่องทางของจงฮยอนได้ง่ายขึ้นแม้มันจะช่วยได้ไม่มากเท่าเจลก็ตาม ขาของจงฮยอนตอนนี้พาดอยู่ที่แผงตอนโซนหน้ารถโอบรอบร่างสูงหนาของมินฮยอกเอาไว้ แต่ด้วยท่านี้มันทำให้ช่องทางของจงฮยอนค่อนข้างที่จะฟิต และตอดรัดแก่นกายของมินฮยอกได้ดีแบบสุดๆโดยที่จงฮยองเองไม่ต้องออกแรงมาเกร็งกล้ามเนื้อหูรูดให้ตอดรัดแก่นกายอีกคน แม้มันจะตอดรัดดีเพียงใดมันก็ทำให้มินฮยอกขยับแก่นกายเข้าออกได้จำกัดมากหากอยู่ในท่าที่เอามือทั้งสองข้างยันตัวเองไว้แบบนี้ มินฮยอกจึงได้ตัดสินใจเอาตัวเองนอนทับจงฮยอนไป มินฮยอกที่ตอนนี้สามารถขยับแก่นกายได้แล้ว แต่ท่านี้มันมีอะไรมากกว่าที่จงฮยอนคิดไว้เยอะ มือข้างซ้ายมินฮยอกได้เอามาให้จงฮยอนหนุนไว้ที่คอทำให้ มินฮยอกสามารถท้าวและโก้งตัวข่วงท้องเอาไว้ มือขวาที่ตอนนี้ว่างอยู่ได้มาจับแก่นกายของร่างบาง แล้วชักขึ้นลงพร้อมกับการขยับแก่นกายเข้าออกในร่างบาง
‘อ่า...อือ’
‘อย่าดังสิ่ครับ’ มินฮยอกที่ตอนนี้ทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันได้เพิ่ม งานให้กับตัวเองเข้าไปอีก มินฮยอกไปประกบปากจูบจงฮยอนเพื่อที่จะให้เสียครางของจงฮยอนออกมาเบาที่สุด กิจกรรมของทั้งสองคนตอนนี้ มันอาจจะเป็นการเปลี่ยนสถานที่อย่างนึงไม่ใช่เพราะเขาที่ทำในรถ แต่รถเขาจอดในที่สาธารณะ ด้วยความที่กลัวคนอื่นจะมาเห็นพวกเขาทำกิจกรรมกันในสถานที่แบบนี้ มันได้เพิ่มความระแวงมากขึ้น และต้องทำให้เร็วขึ้นเพื่อที่จะไม่มีคนมาเห็นมินฮยอกสวนแก่นกายเข้าไปหาร่างบางเร็วขึ้นจนได้มีเสียงเนื้อกระทบกันเข้ามาบ้าง แก่นกายของจงฮยอนตอนนี้ที่ถูกมินฮยอกกำลังรูดให้อยู่นั้นตอนนี้ได้มาถึงจุด ไคลแมคแล้ว จงฮยอนได้ปลดปล่อยออกมา ด้วยความเสี่ยวและเกร็งที่มาจากเรื่องสถานที่และสิ่งที่มินฮยอกทำให้ มันได้ปลดปล่อยน้ำรักของฮยองฮยอน ให้พุ่งมาจนถึงอกของจงฮยอน ตามปกติที่มินฮยอกมักจะทำกับจงฮยอนเมื่อจงฮยอนเสร็จก่อนคือเขาจะปล่อยออกข้างนอกแต่ตอนนี้เขาไม่สามารถถอนมันออกมาได้จึงจำเป็นที่จะต้องปลดปล่อยข้างในตัวของจงฮยอน
‘จงฮยอน ทำไมปล่อยก่อนผมอ่ะพี่ต้องโดนลงโทษนะ’
‘นายแหละทำไมไม่อื้อ.....ยั้งมือ’ มินฮยอกมีหรอจะยอมให้อีกคนพูดดีๆ อารมณ์ต้องการของเขามากกว่าสิ่งอื่นใดในตอนนี้ น้ำรักของจงฮยอนที่ตอนนี้อยู่ทั่วหน้าอกและท้องของคนข้างใต้ มินฮยอกได้ลูบไล้มันไปทั่วตัวของจงฮยอนแล้ว มาเล่นที่ยอดอกสวยของจงฮยอน ใช้ข้อของนิ้วโป้งคลึงคลึงมันทั้ง2ข้าง จงฮยอนที่ตอนนี้โดนอีกฝ่ายเล่นอีกครั้งทำให้เขาเริ่มที่จะเกิดอารมณ์ใหม่อีกรอบ มือมินฮยอกลูดลงมาด้วยความลื่นของน้ำรัก มันเป็นอะไรที่สร้างความเสียวและอารมณ์ได้สุดๆ
‘มินนา..... ’ เสียงเรียกของอีกคนตอนนี้มันทำให้มินฮยอกใกล้ที่จะเสร็จ
‘ใกล้ ละแล้ว ครับ’ มินฮยอกขยับแก่นกายมิด ไม่นานก็ปลดปล่อยเข้ามาในตัวของจงฮยอน แล้วถอนออกมา มินฮยอกที่ตอนนี้ถงแค่กางเกงลงเล็กน้อยจึงได้ลงจากรถไปจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย และรออีกคนแต่งตัวในรถให้เสร็จ
‘เดี๋ยวขึ้นไปก่อนเลยนะเดี๋ยวผมตามไป’
‘อ่าวทำไมอ่ะ’
‘เดี๋ยวผิดสังเกตุเพราะผมไม่เคยขึ้นไปพร้อมที่รักเลย’
‘อ่าอื้ม’ แล้วจงฮยอนที่ตอนนี้แต่ตัวใกล้เสร็จเหลือเพียงแต่ใส่เสื้อเชิ้ตเท่านั้น มินฮยอกได้เข้ามาแกล้งอีกคน ด้วยการใช้ลิ้้นเลียไปตามผิวเนียนและทำคิสมาร์คไว้บนตัว
‘ของที่รักนี่หวานจังเลยนะ’


“พี่ๆๆ พี่จง” แอลได้เรียกอีกคนเมื่อเห็นว่าพี่ตัวเองได้เข้าสู่ห้วงความคิดไปนาน
“ห๊ะหา อะไร”
“สรุปตอบได้ยังทำไมพี่ต้องหน้าแดง ช่างเถอะไม่อยากรู้ละ”
“อ่าอื้ม” ตอนนี้มินฮยอกก็เข้ามาในห้องแล้วแต่ก็เหมือนทุกครั้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่ตาม ประสาคนทำอาชีพทนาย ช่วงเวลาของครอบครัวก็ยังคงผ่านไปเรื่อยๆแม้จะเป็นใน โรงพยาบาลก็ตามทีแต่มันก็น้อยนักที่ คนรวยระดับแอลจะว่างเมื่อเริ่มมืด จงฮยอนกับมินฮยอกก็กลับบ้านไป ค่ำคืนนี้ก็เหลือเพียงแต่แอลที่ตอนนี้อาการดีขึ้นจนใกล้จะหายแล้ว กับอูฮยอนที่เฝ้าคนที่เขารักอย่างใกล้ชิด
“ที่รัก หนาวอ่ะ” แอร์ของโรงพยาบาลตอนนี้มันเย็นลงเรื่อยๆ เพราะเป็นระบบ DVM+ ของ Samsung ที่กระจายอากาศให้ทั่วอาคารทำให้แม้จะปิดแอร์ก็มีอากาศเย็นๆมาอยู่บ้าง นัมจึงเอาผ้าห่มของตัวเองมาห่มให้อีกคนเพิ่ม
“ไม่หนาวหรอ”
“เดี๋ยวไปขอผ้าห่ม เอาก็ได้”
“ไม่ต้องหรอก มานอนกับเค้านี่มา” แอลได้เขยิบเตียงให้อีกคนมานอนข้างๆแม้ว่าพื้นที่มันจะไม่มากก็ตาม แต่อันที่จริงเขาแค่อยากกอดคนตรงนี้ เพราะเขากับอูฮยอนได้ห่างหายกอดนี้กันไปนานมาก
“แต่...”
“ไม่ต้องแต่เลย มาเร็ว” อูฮยอนได้ขึ้นไปนอนบนเตียงคนป่วยของแอล อูฮยอนตอนนี้ได้ถูกร่างบางดึงลงไปกอดหลังจากขึ้นเตียงแทบจะทันที แอลตอนนี้ได้กอดร่างหนาที่เขาไม่ได้กอดมานาน อูฮยอนรู้สึกถึงแก้มของร่างบางที่เข้ามาซบที่หลังของเขา
“นามู.......” ชื่อที่แอลเอาไว้เรียกอูฮยอนสมัยที่ยังคบกันตอนเรียน ตอนนี้แอลได้กลัมาพูดคำนี้อีกครับ
“ครับหนูแอล” นัมได้พลิกตัวกลับไปหาอีกคน ที่ตอนนี้กำลังมองอีกคนอย่างอ่อนโยน ไม่ใช่แอลที่ทุกคนรู้จัก เหวี่ยง แรง เอาแต่ใจ บ้างาน
“เค้าว้อนอ่ะ ไม่ได้ทำกัน... นานแล้วนะ”


“เค้าว้อนอ่ะ ไม่ได้ทำกัน... นานแล้วนะ” เสียงแอลที่อ้อดอ้อนอูฮยอนเป็นเสียงที่ไม่ได้ยินมานาน มากสำหรับอูฮยอนเอง
“แต่ที่รักยังป่วยอยู่เลยนะ”
“อย่าแคร์สิ่ นานๆเปลี่ยนที่นะ โรงพยาบาลด้วย”
“..... เฮ้ย”
“เบาๆสิ่ที่รัก” ตอนนี้แอลได้ขึ้นมาคร่อมตัวอีกคน ไม่กลัวว่าสายน้ำเกลือที่เสียบอยู่บนแขนจะหลุด ถึงหลุดก็ไท่แคร์ ทำไมล่ะเขาไม่ได้ทำกับอูฮยอนมาตั้งนานแล้วทำไมเขาต้องแคร์ด้วย แอลจูบอูฮยอนก่อนโดยที่ไม่รอฟังคำพูดอีกคน ปกติแอลไม่ค่อยไม่รุกอีกคนเท่าไหร่แต่รอบคนนี้แอลอเป็นคนเริ่มเกมส์ก่อน
“ที่รักเริ่มก่อนนะ” อูฮยอนเอามือไปโอบหัวของอีกคนโน้มลงมาแล้วกดจูบใหม่อีกรอบ ซึ่งรอบนี้เขาเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเอง นัมใช้ลิ้นเข้าไปหาความหวานในปากบางของแอล โดยไม่กลัวว่าจะติดหวัดจากอีกคน เสื้อคนป่วยของแอลได้ถูกถอดออกแต่เอาแแกหมดไม่ได้เพราะแขนซ้ายของแอลมีสายน้ำเกลือเสียบไว้ที่แขนอยู่ แต่อูฮยอนก็ได้ช่วยแอลเอาเสื้อนั้นลอดไปตามสายน้ำเกลือออกไป และตอนนี้นัมได้ลงจากเดียวแล้วให้แอลนั่งบนเตียง เดินเข้ามาชิดตัวอีกคนไซร้ต้นคอขาวเนียนของอีกฝ่าย แอลตอนนี้มือทั้งสองข้างค้ำไว้ที่เตียง ให้ได้องศารักการรุกของอีกคน
“ที่รักไม่สบายอยู่เดี๋ยวเค้าทำเองนะ” อูฮยอนกระซิบข้างหูของแอลแล้วเอามือลูบแก่นกายอีกคนผ่านกางเกงที่เกือบหนาของโรงพยาบาล
“อือ...” แอลครางออกมาเบาๆเชิงบอกอีกคนว่ารู้แล้ว ตอนนี้แก่นกายของแอลค่อยๆแข็งสู้มือของอูฮยอน แล้ว..อูฮยอนจะรอช้าอยู่ทำไมเมื่อเขารู้ว่าตอนนี้เขาปลุกอารมณ์ให้คนตรงนี้เสร็จแล้วเขาจึงได้ถอดกางเกงของอีกฝ่าย แต่แก่นากายที่กำลังตื่นของแอลมันยังไม่ใช่จุดที่อูฮยอนยังต้องการ อูฮยอนได้เอานิ้วสอดเข้าไปในช่องทางของแอล ขยับนิ้วเบาๆในช่องทางของแอล สำหรับแอลแม้เป็นคือนิ้วของอีกคน มันอาจจะไม่ใช่แก่นกายของอูฮยอนที่คุ้นเคย แต่มันก็ทำให้เขามีความสุขได้เหมือนกัน ความรู้สึกของแอลที่ค่อยๆมีอารมณ์ต้องการในตัวของอีกคนมันค่อยๆเพิ่มขึ้น แอลกัดริมฝีปากบางเบาๆใช่ตอนนี้ เป็นโมเมนต์ของแอลที่เซ็กซี่มาก ใครบ้างล่ะจะทนไหวแอลถอดเสื้อของอีกคนช้าๆ เป็นการยั่วให้อีกคนรีบจัดการกับตัวของเขาเร็วๆ ยิ่งกว่าทุกสิ่ง อูฮยอนคนนี้แพ้สายตาเชิงออดอ้อนของแอล ที่แอลกำลังส่งให้อีคนอยู่ตอนนี้มือของแอลที่เคยค้ำตัวเองบนเตียงย้ายมาถอดเสื้อของอีกคน ตอนนี้มันได้มีหน้าที่ใหม่เป็นการ ลูบไล่ร่างกายของร่างหนาที่เขาไม่ได้เข้าหามานานแม้กระทั่งกอด
“ที่รักผมเริ่มแล้วนะ” อูฮยอนได้ถอนนิ้วออกมาจากช่องทางเพราะยังไงซะ นิ้วเย็นๆมันก็คงสู้เอ็นอุ่นๆของเขาไม่ได้หรอก อูฮยอนถอดกางเกงได้อย่างรวดเร็วแม้ว่ามันจะคาดเข็มขัดอยู่ก็ตาม แก่นกายของอูฮยอนตอนนี้สอดเข้าไปแล้วสอดเข้าไปในช่องทางของแอล ร่างบางที่ไม่ได้ทำนานย่อมที่จะเจ็บเล้กน้อย แต่ถ้าแลกกับความสุขข้างหน้า ร่างบางคนนี้ทนได้เสมอขอแค่อูฮยอนมีเขาคนเดียวพอ แอร์ของโรงพยาบาลที่แอลว่าหนาวตอนนี้มันไม่มีผลอะไรกับเขาแล้ว ความอบอุ่นที่ตอนนี้อูฮยอนกำลังมอบให้ มันทำให้แอลอุ่น อุ่นกว่าผ้าห่มอื่นใดที่เขาเคยซื้อมาห่ม แก่นกายของอูฮยอนที่กำลังขยับอูในตอนนี้ แม้จะขยับไม่เร็วมากค่อยเป็นค่อยไปเพราะตอนนี้เขาไม่อยากจะให้คนตรงหน้าเจ็บไปมากกว่านี้ไม่งั้น แอลได้อยู่โรงพยาบาลยาวเพราะไข้ขึ้นจากกิจกรรมที่เขาทำกันตอนนี้เป็นแน่ แต่จังหวะแบบนี้คงใช้ตลอดไม่ได้เมื่อร่างบางต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ และอูฮยอนเองก็ต้องการไม่แพ้ไปกว่าแอล จังหวะมันก็เปลี่ยนไป อูฮยอนจับแอลนอนคว่ำด้วยการพลิกตัวค่อนข้างเร็วตอนนี้สายน้ำเกลือของแอลหลุดไปแล้ว แก่นกายที่ตอนนี้อูฮยอนถอยออกมาเพราะ เปลี่ยนท่าทางได้สวนกลับเข้ามาใหม่ในช่องทางของแอลอีกรอบ
"น่ารักจังเลยผมจะไม่มีใหม่แล้ว"แอลที่ตอนนี้เอาหน้าแนบหน้าลงไปกับเตียง มือจิกผ้าปูเตียงของโรงพยาบาลจนเป็นรอบยับ ขณะที่อูฮยอนกำลังเร่งจังหวะให้ตัวเองเสร็จไปตามอารมณ์ต้องการของเขา ตอนนี้คงจะมาถึงจุดสิ้นสุดแล้วสิ่่นะ อูฮยอนได้ปลดปล่อยน้ำรักเข้าช่องทางสวยของแอล แล้วพลิกตัวแอลให้หงายหน้าขึ้นมา
“ที่รักยังไม่เสร็จสิ่นะ” อูฮยอนเอามือจับแก่นกายสวยของแอลรูดขึ้นลงเบาๆ จนมันเริ่มที่จะเกร็ง และใกล้ปลดปล่อยอูฮยอนก็ได้เอานิ้วมาวนปลายแก่นกายที่มีน้ำใสๆอยู่ตอนนี้ ความเสียวมันได้เพิ่มเข้ามา จนร่างกายของแอลได้ปลดปล่อยน้ำรักออกมาใส่มืออีกคนจำนวนมาก เพราะแอลไม่ได้ไปปลดปล่อยที่ไหนเลย อูฮยอนได้เลียนน้ำรักของอีกคนที่มือของเขา รสชาติมันอาจจะไม่หวาน และค่อนข้างจืดเขาก็เลียนมันโดยไม่รังเกียจถึงขั้นต้องไปล้างออก เมื่อแอลเห็นว่างอีกคนจัดการกับมือของตัวเองเสร็จแล้วจึงได้เข้าไปจูบอีกคน
“อื้ม.....” เศษน้ำรักของแอลที่บางส่วนติดอยู่ที่ริมฝีปากของอูฮยอนแอลได้จัดการเลียมันออกจนหมด เมื่อทั้งคู่ที่ตอนนี้เสร็จกิจกรรมรักแล้ว อูฮยอนจึงได้มาใส่เสื้อให้แอล และตัวเอง
“อ่าว ที่รักสายน้ำเกลือหลุดตอนไหน”
“ไม่รู้...” แอลที่ส่ายหน้าไปมาและหน้าตาใสซื่อเหมือนลูกแมวในตอนนี้
เป็นคำตอบให้อูฮอยนได้ว่าไม่รู้จริงๆแหละ แล้วอูฮยอนจึงเดินไปกด Intercom ของ Samsung ที่ติดในห้องเรียกพยาบาลเข้ามาจัดการให้
“ค่ะเสร็จแล้วนะคะ”
“ครับ ขอบคุณฮะ” อูฮยอนได้กล่าวขอบคุณพยาบาลที่เข้ามา จัดการเรื่องสายน้ำเกลือของแอลให้ แอลที่ตอนนี้เข้าสู่นิทราแล้ว อูฮยอนได้ขึ้นเตียงไปนอนกอดอีกคน
“ฝันดีนะครับ” แล้วหอมแก้มลงไปหนึ่งที่ และก็จบไปอีกวันหนึ่งของ แอลและนัม ในโรงพยาบาล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น