วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2556

Fic Infinite i'm bad husband Part III


1 เดือนผ่านไป แน่นอนว่าแอลได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งนัมได้ย้ายมาทำงานอยู่กับแอลแล้วแต่ แอลไม่ได้ให้สิทธิพิเศษอะไรกับอูฮยอนเลย อูฮยอนต้องเริ่มใหม่ทั้งหมดตั้งแต่สมัครงาน เงินเดือนที่ได้ก็เท่ากับพนักงานทั่วไปในตำแหน่งเดียวกัน เพราะแอลไม่ต้องการให้ใครมาบ่นหลับหลังว่าใช้้อำนาจของภรรยา เข้ามาทำงานแต่ได้สิทธิพิเศษมาแค่อย่างเดียวคือ ได้ทำงานในห้องเดียวกับแอล

“แอล....”
“หืม”
“ไปกินข้าวกันเที่ยงแล้ว” อูฮยอนได้ชวนแอลที่ทำงานอยู่ถัดไป โต๊ะของทั้งสองคนเป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่พอสมควรต่อกัน เพราะอยากนั่งคู่กัน แต่โต๊ะแอลตอนนี้แทบ จะไม่ได้เป็นโต๊ะของเขาเองเพราะ เอกสารของนัมมักจะเกินมาที่โต๊ะเขาเสมอ
“เดี๋ยวค่อยไปงานยังไม่เสร็จ” แอลที่ตอนนี้กำลังอ่านเอกสารใน Galaxy Note 10.1 สีขาวสะอาดพร้อมใส่ Book Case จาก Samsung ทำให้เครื่องดูสวยไปอีกแบบ แต่อย่างที่นัมรู้คือ ถ้าแอลทำงานเสร็จแล้วแอลจะว่างจนถึงเวลาเลิกงาน ต่างกับเขาที่ต้องนั่งทำงานทั้งวันทำยังไงก็ไม่เคยจะเสร็จ
“เสร็จละ จะกินอะไรล่ะครับ” แอลที่ได้เซ็นเอกสารบน Galaxy Note 10.1 เสร็จก็หันมาถามอีกคนที่นั่งหงอยอยู่ข้างๆ
“แล้วแต่ที่รักสิ่” แอลยิ้มออกมาเบาๆ
“งอนเป็นเคะไปได้”
“ผมไม่เคะนะ แล้วเรื่่องตอนนั้นใครทำ”
“บ้า พอๆๆๆๆ หยุด” แอลตอนนี้ลุกออกจากห้องไปรออีกคนที่ ล็อบบี้ลิฟต์ เมื่ออูฮยอนมาถึง แอลก็ได้เรียกลิฟต์ พร้อมทำสิ่งที่อีกคนต้องตกใจ เพราะแอลไม่ได้ไปชั้นที่รถจอดอยู่แต่ไปชั้น Food Court ของบริษัท
“ทำไมที่รักมาที่นี่ล่ะ” นัมได้ถามอย่าง งงๆ เพราะปกติตอนที่เขาไม่ได้มาทำงานกับแอล แอลจะไปกินข้าวข้างนอกเสมอ แม้ตอนที่ตัวเองเคยโดนแอลบังคับมาทำงานที่นี่ตอนหลังจากแอลบุกที่ทำงานเขา เขาก็เห็นแอลมากินแต่ Food Court ไม่เห็นออกไปไหน แม้นัมเองจะมาอยู่ที่นี่ครบเดือนแล้วก็ตามแต่ก็อดสงสัยไม่ได้
“ประหยัดดีเป็นเจ้านายไม่ต้องทำตัวหรูหรา ให้มันเวอร์หรอก” แอลพูดจบก็เดินออกจากลิฟต์ที่ตอนนี้มาถึงชั้นที่ต้องการแล้ว โดยที่มีอูฮยอนเดินตามมาแล้วมาจับมืออีกคนแล้วเดินไปด้วยกัน
“ที่รักนี่จะเค็มไปไหนนะ”
“ไม่เค็มก็จนสิ่” แอลได้หันมาหอมแก้มอีกคน โดยไม่สนสายตาใคร ขณะที่นัมกำลัง งง ว่าเกิดอะไรขึ้น แอลที่ตอนนี้เดินไปก่อนแล้วได้หันกลับมาพูดว่า
“อยากงานเสร็จเร็วๆเอางานกลับไปทำที่บ้านได้นะ”
“...ครับ” นัมได้ยิ้ม อย่างมีความสุขแล้วเดินตามอีกคนไป ท่ามกลางสายตาของ พนักงานคนอื่นที่กำลัง จ้องมองอยู่ด้วยความเขินและปนนินทา


ตอนนี้ก็เป็นเวลาเลิกงานแล้ว แอลที่กำลังดูหนังอยู่ที่ห้องพักเพราะงานเขาเสร็จตั้งแต่ครึ่งวันเช้าแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแต่รออูฮยอนทำงานให้เสร็จแล้วกลับบ้าน ซึ่งตอนนี้ก็ถึงเวลาเลิกงานแล้วแอลจึงปิด โปรเจคเตอร์ระบบ 3LCD จาก Samsung ที่แขวนอยู่บนเพดาน แล้วเดินออกไปหาอีกคน
“ที่รักกลับบ้านกัน”
“”ขณะที่แอลกำลังหยิบเสื้อโค้ทใส่กันหนาวจากที่แขวนเสื้อ ก็มองไปเห็นอีกคนที่หลับคาโต๊ะทำงาน แอลจึงได้เดินเข้าไปหาอีกคนแล้วเก็บเอกสารที่อีกคนยังทำไม่เสร็จ ใส่กระเป๋า Hermes รุ่น caleche-express สีน้ำตาลเข้ม และบางส่วนที่ใส่ไม่ได้เจ้าตัวก็ถือไว้เอง และสกิดอีกคนให้ตื่น
“นัม.......”
“....”
“ที่รักครับ”
“งื้อ.....”
“ตื่น...” แอลหยิกแขนของอีกคนแรงพอสมควรและมันก็แรงพอที่จะทำให้ร่างของอูฮยอนตื่่นได้
“ครับ”
“กลับบ้าน นอนอะไรที่นี่ไปนอนที่บ้านนู้น”นัมที่ตอนนี้ตื่นแล้วได้ทำการเก็บของที่แอลยังไม่ได้เก็บ ใส่กระเป๋าแล้วกลับบ้าน

ขณะที่ทั้งคู่ตอนนี้อยู่ในรถซึ่งแน่นอนว่าแอลเป็นคนขับแล้ว  อูฮยอนคนนี้ก็เข้าสู่นิททรา แอลที่กำลังมองทางข้างหน้าอยู่ ก็ต้องหันมาสนใจ Galaxy Note II ของตัวเองที่พบว่ามีเบอร์คนที่ไม่ได้คุยมานานมาโทรเข้ามา มือบางของแอลตอนนี้ได้ไปกดรับสายที่ตัว iDrive ของ รถ BMW Series 7 คันประจำ

“ยอ..โบ..เซ..โย....ฮยอง.......”
“กำไมแกต้องทำเสียงยานคางแบบนี้แอล”
“ก็ร้อยวันพันเดือน ฮยองไม่เคยโทรมาหาผมหนิ่ผมก็แปลกใจนิ”
“อ่าฮะๆๆ”
“พี่โทรมามีอะไรหรอครับ”
“พี่กำลังจะไปอยู่เกาหลีกับนายแล้วนะ”
“ห๊ะ!!!” เมื่อแอลได้ยินแบบนั้น รถที่กำลังขับด้วยความเร็วค่อนข้างจะสูงได้เลี้ยวเข้าข้างทาง แล้วเบรคอย่างเร็ว ซึ่งมันแรงพอที่ทำให้อูฮยอนตื่นได้
“แอลมีอะไรเบรคแรงเชียว” อูฮยอนที่ตื่นมาก็ต้องถาม ด้วยความ งง เพราะปกติแอลไม่เคยเบรครถอะไรกระทันหันแบบนั้น ต่อให้มีอุบัติเหตุแอลก็ขับไปได้เรื่อยๆ
“แอลนี่ขับรถอยู่หรอ เสียงอูฮยอนใช่ไหม”  คิม(โอ)วอนบิน หรือ คิม(โอ)ซองฮยอน ที่เป็นพี่ของแอล ได้ถามขึ้นมา เพราะเขาสอนแอลประจำว่าขับรถห้ามใช้โทรศัพท์
“อ่าครับ ผมขับรถอยู่ แล้วฮยองจะถึงวันไหนอ่ะครับ”
“วอนบินฮยองจะมาทำไมไม่โทรบอกผมก่อนอ่ะ” อูฮยอนได้ถามอย่างที่แอลกำลังจะถาม
“ฮยองกำลังจะออกจากเกท มารับด้วยชั้นรู้แกอยู่ไม่ไกลจากอินชอน” วอนบินที่เปิด Google Maps และใช้ Function Latitude หาตำแหน่งเพื่อนด้วยกัน บนแผนที่ ทำให้อูฮยอนและแอลต้องมองหน้ากันอย่างอึ้งๆ
“ถ้าแกสองคนไม่มารับภายใน 26 นาที รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น” แอลรีบหยิบ Samsung Galaxy S III ให้กับอูฮยอน ซึ่งอูฮยอนเขาใจดีว่าหมายถึงอะไร
“อ่ะครับฮยองผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้” แล้วแอลก็ได้กดวางสายไป

“เรียกยัง”
“เรียกแล้วๆ”
“ทำไมมากระทันหันแบบนี้” ตอนนี้แอลและนัม ได้ลงจากรถ และไปสวนสาธารณะใกล้ๆเพื่อขึ้น เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว ตรงไปยัง สนามบินนานาชาติอินชอน
“ฮยองเขามีเรื่องด่วนหรือเปล่า”
“อย่างฮยองวอนบินเนี่ยนะ”
“ไม่รู้ดิ่” แอลได้เอาหัวอิงไหล่ของอูฮยอนอย่างเหนื่อยๆ เพราะเขาไม่คิดว่าพี่ชายของเขาจะมาถึงเกาหลี และทันทีที่ถึงสนามบิน แอลกับอูฮยอนก็โดน วอนบินเอ็ดทันที เรื่องที่เอาฮอลมารับ จนกระทั้งถึงบ้านแอลจึงได้ให้คนใช้ไปเอารถกลับมา

ทุกคนก็อยากจะรวยกันใช่ไหม แน่นอนว่าคนจนย่อมรวยได้ไม่ว่าใครทั้งนั้นแต่โอกาสมันจะมากหรือ น้อยแค่นั้น แต่ถ้าเรามองมุมกลับคนรวยก็สามารถจนได้เช่นกัน
“ซง ซึงฮยอน” เสียงทุ้มเข้มและก้าวร้าวของชายชุดดำที่อยู่ต่อหน้าเขา
“เมื่อไหร่จะใช้หนี้”
“...ก็ชั้นไม่มีอ่ะ”
“อยากรู้ไหมว่าถ้าไม่มีครั้งต่อไปมันจะเป็นยังไง”
“มะ..ม่ะ ไม่”
“ดี ให้เวลานาย 1 เดือน ไปหามา” แล้วชายชุดดำเหล่านั้นก็เดินจากไป ซึ่งเดินสวนกับคนที่เพิ่งเดินเข้ามา
“ซึงฮยอนเป็นอะไร แล้วไมบ้านโล่งแบบนี้” มินฮวานที่เพิ่งเข้ามาได้ถามน้องที่ตอนนี้นั่งร้องไห้อยู่บนพื้น
ข้าวของที่เคยมีตอนนี้ได้หายไป จึงได้วิ่งเข้าไปกอดอีกคนไว้
“บ้านเราล้มละลาย เป็นหนี้ 400ล้าน(วอน)”
“ห๊ะ แล้วนี่เราจะเอาเงินจากไหนล่ะเนี่ย นายย้ายไปอยู่บ้านพี่ก่อนแล้วกัน”

ณ บ้านของมินฮวาน ซึงฮยอนและมินฮวาน ที่ตอนนี้ได้เอาของมาเก็บเรียบร้อย แล้วจึงได้ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับน้องของเขา
“ก็หลังจากที่พ่อตาย แม่ก็ไปมีชู้ ไปสร้างหนี้กับผัวใหม่แม่ แม่กับมันติดการพนันจนต้องขายทุกอย่างแล้ว มันก็ยังไม่หมด ฮึก.. แล้ว มันก็ทิ้งแม่ไป แม่เสียใจมากเลยตายตามพ่อไป แล้วก็ทิ้งหนี้ไว้ให้” ซึงฮยอนที่ตอนนี้ได้ปล่อยโฮออกมา คนเป็นพี่อย่างมินฮวาน ที่แพ้น้ำตาของน้องตัวเองที่พบกับปัญหาใหญ่ขนาดนี้ แค่เขากลับมาเกาหลีวันแรกก็ต้องมีปัญหาขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่กลับมาซึงฮยอนคงจะอาการหนักกว่านี้ ต่อจากนี้เขาคงไม่อยู่เฉยแน่ๆ แต่ขอให้เขาได้คิดซักนิดนึงเถอะถึงแม้จะเป็นวิธีที่ สกปรกก็ตามเขายอมหมด

“แล้วนี่ฮยองกลับมาทำไมฮยองยังไม่บอกผมเลยนะ” แอลที่ตอนนี้กำลังเซ้าซี้ วอนบินที่กลับมาเกาหลีอย่างไม่มีการบอก
“ก็อยากกลับ”
“เอาจริงๆ ปกติเห็นพี่อยู่แต่ อเมริกาๆๆๆๆๆ ไม่เห็นจะอยากกลับ”
“ที่รักอย่างเพิ่งถาม ฮยองเขาเยอะสิ่ฮยองเพิ่งจะมาถึงคงเหนื่อยๆ” อูฮยอนที่นั่งข้างแอลตอนนี้พยายาม พูดให้อีกคนเย็นลง
“งานเสร็จแล้วหรอ”
“ยังครับ”
“ไปทำ ไม่งั้นหักเงินเดือน” แอลได้หยิบกระเป๋าตังของอีกคนมาแล้วหักบัตรเครดิตทิ้งทุกใบ เหลือไว้เฉพาะ บัตรที่เป็นบัญชีเงินเดือนของอูฮยอนเอง
“ห้ามให้บัตรเครดิตด้วย”
“ที่รักอ่ะ...แล้วนี่ฮยองกลับมาทำไมรีบๆ บอกแอลไปเถอะ” อูฮยอนหลังจากที่โดนหักบัตรเครดิตไปต่อหน้า ทำให้ใจเขาไปอยู่ตาตุ่มเพราะ ลำพังเงินเดือนก็ไม่พอจะใช้อยู่แล้ว จึงต้องรีบเข้าข้างแอลอย่างรวดเร็ว
“ก็แค่ อยากมาพักผ่อนบ้าง งานที่นู้นไม่ค่อยยุ่ง”
“แค่นั้นก็จบ ฮยองไปพักได้ละ ห้องผมก็ได้ว่าง” แล้วแอลก็หันหน้ามามองนัมอูฮยอน ว่าเขาไปนอนด้วยนะ ซึ่งนัมก็ไม่ได้ว่าอะไร
“อ่าว แล้วฮยองจะไปไหน” อูฮยอนได้ถามแจจินพี่สะใภ้ของเขาและแอลเพราะเวลาดึกแบบนี้จะไปที่ไหน
“ไปเที่ยว.. บอกแอลด้วยนะว่ายืมรถหน่อย” วอนบินตอบไปตามความเป็นจริงเพราะเขาต้องการที่จะปลดปล่อยมากกว่า ที่วอนบินต้องกลับมาน่ะหรอ ไม่ใช่เพราะเขาอยากกลับมาพักเฉยๆหรอก เขาแค่ต้องการที่จะกลับมาทำใจมากกว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาเพิ่งทะเลาะกับแจจินน่ะสิ่ แต่เมื่อกำลังจะออกไปก็ต้องเกิดความมึนอีกรอบเพราะ กุญแจรถที่แอลเก็บไว้ในลิ้นชัก ที่ล็อบบี้หน้าบ้านมันมีร่วม 7 อัน ซึ่งเป็นของแอลเกือบครึ่ง อันได้แก่ BMW Series 7 , Series 6 Gand Coupe , Series 3 , X1 , X6 , Z4 อีก 2 คัน ทำเอาอูฮยอนต้องเดินมาหา แต่กลับถูกอีกคนขัดไว้

“ฮยองจะยืมรถหรอที่รัก”
“อื้ม...”
“เดี๋ยวไปจัดการให้ ที่รักไปเคลียร์งานเถอะ” นัมจึงได้หอมแก้มแอลแล้วเดินเข้าห้องทำงาน เพื่อจัดการเอกสารที่ค้างไว้ให้เสร็จเพราะบริษัทใกล้วันหยุดยาวประจำปีแล้ว
“ทำไมฮยองไม่มาบอกผมเอง”
“ก็.........” วอนบินที่รู้ว่าน้องคนนี้หวงรถ พอๆกับกล้องของเขา จึงไม่กล้าที่จะขอยืมตรงๆ
“รู้ว่าผมหวงรถใช่ไหม”
“ใช่”
“แล้วพี่คิดว่าผมจะให้ฮยองยืมไหม”
“ต้องให้สิ่ ฮยองเพิ่งมาถึงนะ”
“งั้นพี่เอา Z4 ไป อ้อฮยองอย่าลืมเติมน้ำมันคืนผมด้วยล่ะ” แล้วแอลก็หากุญแจรถ Z4 ที่อยู่ในลิ้นชักให้วอนบินไป และไม่ลืมที่จะเค็มใส่อีกคนคันที่ให้ไปนั้นน้ำมันก็ใกล้หมดแล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ไหนๆพี่ชายของเขาก็กลับมาทั้งที เขาจะห้ามพี่เขาลงได้ยังไง เมื่อเห็นว่าวอนบินออกไปแล้วแอลจึงได้ไปหา นัม ที่ห้องทำงานเพื่อช่วยเคลียร์เอกสาร

“มาๆ ช่วยทำ”
“วันนี้เมียผมน่ารักจังเลย”
“-////- เอามาเหอะๆ” แอลไม่รอช้ารีบหยิบเอกสารบนโต๊ะมาจัดการอย่างรวดเร็ว อย่างมืออาชีพ หลังจากผ่านไป ชั่วโมงกว่าๆงานทุกอย่างก็เสร็จ อูฮยองจึงไถเก้าอี้เข้าไปหาอีกคนแล้วกอดอีกคนให้มานั่งบนตัก
“ผมจะชดใช้ยังไงดีนะ”
“มะ ไม่ต้องก็ได้” แอลเริ่มเสียงสั่นเพราะ นัมไม่ได้แค่เอาเขาไปกอดบนตักเฉยๆเขารู้สึกถึงสิ่งที่อยู่ใต้กางเกงของอูฮยอนว่ามันค่อยๆแข็งตัวและ นัมเริ่มที่จะไซร้คอของเขา
“เมียจ๋าไปที่ห้องเถอะ”
“บ้า ไม่ทำ” แอลที่ตอนนี้ดิ้น หนีอีกคนตอนนี้ได้หยุดลงเพราะอูฮยอนได้อุ้มเขาออกจากห้องทำงานและกำลังเดินไป ที่ห้องนอนของนัมอูฮยอน

อูฮยอนกับแอลที่ตอนนี้กำลังทำกิจกรรมหลังจากเสร็จงานก็ได้เริ่มขึ้นต่างจากทางวอนบิน ที่ตอนนี้กำลังปล่อยตัวสบายอยู่ในผับชื่อดัง ก็ได้พบกับร่างบางที่แสนจะน่ารักไม่ช้าวอนบินก็ได้เข้าไปหา คนที่กำลังนั่งดื่มอยู่ที่บาร์
“อันนยองครับ”มินฮวานที่กำลังดื่มอยู่ก็ได้หันมามองอีกคน ที่เข้ามาทักเขาการแต่งตัวของ คนตรงนี้ ตรงตามที่มินฮวานตามหา นั้นคือ รวยพอที่จะสามารถปลดหนี้ของครอบครัวเขาได้
“ครับ”
“ขอดื่มด้วยคนนะ ชื่ออะไรหรอ”
“มินฮวาน คุณล่ะครับ”
“คิมวอนบิน ชื่อคุณนี่น่ารักดีนะครับ ขอโทษนะครับทำงานอะไรครับ” วอนบินได้เข้าไปนั่งใกล้อีกคน แล้วได้กล่าวถาม พร้อมมองหน้าอีกคนด้วยความหลงไหล
“ผมว่างงานครับ”มินฮวานยิ้มมาหาอีกคน
“งั้นนี่ครับนามบัตรผม เจอผมได้ที่บริษัทนะครับถ้าคุณสนใจ” วอนบินยิ้มแล้วเดินจากไป

“คุณวอนบินครับ”
“ครับ”
“ขอบคุณนะครับ” วอนบินได้หยิกแก้มร่างบางตรงหน้าเบาๆแล้วเดินจากไปด้วยความเอ็นดู จนลืมนึกถึงว่า บริษัทนั้นแอลเป็นเจ้าของถ้าแอลรู้คนที่จะตายคือเขาแน่ๆ แต่เขาไม่สนหรอกเพราะ ตอนนี้เขาอยากที่จะครอบครองร่างเล็กมากกว่า
เช้าวันต่อมา ที่ห้องทำงานแอลกับนัม
“คุณแอลคะ มีคนมาสมัครงานค่ะ”
“เอาเอกสารมา” แอลรับเอกสารมาจากเลขา ของเขาแล้วยื่นให้อูฮยอน
“ที่รัก สัมภาษณ์ให้ที ไว้ใจได้ใช่ไหม”
“ไว้ใจได้สิ่ครับ”
“คนนี้น่ารักมากนะ”
“ที่รักไม่ไว้ใจหรอ”
“ใช่”
“ที่รักอยู่ข้างผมนะ ไม่พอใจที่รักก็ไล่ไปสิ่” แอลเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ใจโล่งมากขึ้นเขาคงระแวงมากไปสิ่นะ
“บอกให้เขารอแปป”
“ที่รักประวัติเป็นไงบ้าง” แอลได้เลื่อนเก้าอี้เข้าไปใกล้อีกคนแล้วมองประวัติส่วนตัวตรงหน้า
“...จบนอก”
“ก็ไม่เลวนะ แต่ สกุลนี้คุ้นๆนะ”
“นั้นดิ่” นัมได้สังเกตุว่า สกุลคุ้นๆเมื่อแอลทักมาเรื่องชื่อสกุลของคนตรงนี้ แอลจึงได้ต่อสายไปฝ่าย ITDetective ของบริษัท จึงได้พบว่าบุคคลตรงนี้บ้านล้มละลาย

“บ้านล้มละลาย ลูกเจ้าของบริษัทโทรศัพท์อ่ะ”
“อ่าวจริงดิ่ที่รัก บริษัทนี้เรามีหุ้นอยู่หนิ่”
“รับทำงานม๊ะ”
“ลองดูละกัน อ่าเรียกเข้ามาเลยครับ” อูฮยอนได้กดสายไปหาเลขาของแอลให้เชิญอีกคนเข้ามาในห้อง ตามที่แอลกับนัมตกลงกันไว้ว่า ถ้าใครมีคนมาติดต่อให้อีกคนไปที่อื่น แอลจึงหยิบ Galaxy Note 10.1 กับ Samsung Series 5 Ultra touch เข้าไปยังห้องพัก
“เชิญนั่งครับ”
“...”
“ชื่อ ซง มินฮวานทำงานครั้งนี้ครั้งแรก”
“อ่าครับ”
“นัม เดี๋ยวพี่สัมพาดต่อเอง”  ขณะที่อูฮยอนกำลังเริ่ม สัมพาดวอนบินก็เข้ามาขัดว่าจะสัมภาษณ์ต่อเอง
“จะดีหรอครับ”
“พี่มีหุ้นอยู่ในนี้นะ มาให้พี่ทำเถอะ”
“อ่าได้ครับ” แล้วนัมก็หยิบ Samsung Ative PC มาเฉพาะแต่จอ แล้วเดินเข้าไปหาแอลในห้องพัก โดยที่การสัมภาษณ์ ของคนข้างนอกยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ แต่คนระดับแอลนั้นพบว่ามันมีอะไรผิดปกติ เพราะเขากำลังคุยกับ จีโอ ฝ่าย ITDetective ประจำตัวเขาเอง ซึ่งจากประวัติที่จีโอหามาให้ มันทำให้แอลค่อนข้างจะเป็นห่วงเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
“ที่รักเป็นไรหน้าเครียดๆ”
“ไม่ไว้ใจ คนมาสมัครงานอ่ะ”
“คิดมากไปป่าวก็ไม่เห็นมีอะไรหนิ่” แอลที่ตอนนี้หัวเริ่มมึนๆ จากความเครียดเรื่องงานตอนใกล้ช่วงหยุดยาว ได้หนุนลงบนตักของอูฮยอน
“ที่รักขอนอนหน่อยนะ โน้ตบุคจะใช้ก็ใช้” แอลได้หลับลงบนตักของอูฮยอน ทำให้อูฮยอนต้องมาทำงานแทนแอลบ้าง เพราะแอลช่วยเขาทำงานบ่อยมาก
“ผมรับคุณเข้าทำงานแล้วนะเจอกันนะครับ”
“ครับ”

มินฮวานPart

เมื่อวานหลังจากที่ ซึงฮยอนหลับไปแล้วผมก็เลยออกไปคลายเครียดเพราะว่า ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเอาเงินมากขนาดนั้นมาจากไหน ผมคงต้องกลับไปทำงานแบบเดิมแล้วสิ่นะ งานออฟฟิต ที่ผมไม่ชอบ หรือ ผมจะจับคนรวยแล้วหลอกเอาเงินมาปลดหนี้ดี ขณะที่ผมกำลังดื่มอยู่นั้น ก็มีคนที่ผมกำลังตามหามาหาผม วอนบิน หุ้นส่วนรายใหญ่ของบริษัท KNT ที่เป็นเจ้าของโครงข่ายอินเตอร์เน็ต โทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี ถ้าผมได้มาหนี้ผมกับน้องคงหมดแล้ว มีเงินเหลือใช้สบายๆเลยล่ะ แถมมายื่นนามบัตรให้แบบนี้ผมเข้าไปสมัครงานไว้เลยดีว่า วอนบินคุณเข้ามาหาผมก่อนนะ

มินฮวานEnd

ณ คฤหาสตระกูลคิม
“ฮยองผมขอหุ้นที่ผมให้ฮยองคืน” แอลได้พูดขึ้นขณะที่ กำลังเดินเข้าบ้าน
“แกจะขอคืนทำไม”
“ผมไม่ไว้ใจเด็กที่ฮยองรับเข้ามา”
“แค่นั้นเองหรอ”
“ใช่ ไม่ไว้ใจมันมีบางอย่างที่พี่ไม่รู้” แอลได้นั่งตรงข้ามอีกคน แล้วมองด้วยสายตาเยือกเย็น
“ถ้าชั้นไม่คืนล่ะ”
เพล้ง!!!! กระจกที่ของโต๊ะได้แตกลงเพราะแอลได้เอาลูกเทนนิสที่อยู่ใกล้ๆทุ่มลงใส่โต๊ะ แล้วหยิบเศษกระจกขึ้นมา
“ฮยองอยากทำศัลยกรรมไหม” กระจกที่แอลหยิบขึ้นมาตอนนี้ได้เฉียบหน้าของ วอนบินไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
“....” ยังคงไม่มีเสียงตอบจากอีกคน คงเป็นเพราะว่าช็อกเขาไม่คิดว่า จากกันแค่ 5 ปี น้องเขาจะเปลี่ยนได้ขนาดนี้
“ฮยองจะคืนไหม” แอลได้หยิบกระจกขึ้นมาอีกชั้น เมื่อวอนบินเห็นอย่างนั้น
“คืนจ่ะ คืนๆๆๆๆๆๆ” วอนบินรีบวิ่งไปพิมพ์ใบมอบโอนหุ้นมาอย่างเร็วพร้อมเซ็นให้เรียบร้อย
“แค่นั้นแหละ”
“มินฮวานไม่ว่านาย จะมาดีหรือไม่ ชั้นจะไม่หลงกลนาย ถ้านายมาไม่ดีนายตายแน่” แอลได้พึมพำเบาๆกับตัวเองแล้วเดินเข้าห้องไปนอนในห้องของอูฮยอนเพราะห้องเขาเองตอนนี้เป็นของ วอนบินไปแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น