วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557
BTS - [_____] [ V x TaeHyung x Kook ] Part 9
ซองเอกสารสีน้ำตาลถูกเปิดแทฮยองเปิดออกทันทีหลังจากทีชานยอลเดินห่างออกไปสักพัก กระดาษสีขาวที่เขียนหัวกระดาษว่า “ใบมรณะบัตร” แทฮยองเริ่มช็อกอีกครั้งเพราะชื่อบนใบมรณะบัตรชื่อว่า ปาร์คจองกุก จองกุก ตายแล้ว แทฮยองทรุดลงขาทั้งสองข้างหมดแรงที่จะยืนต่อไป ซองกระดาษสีน้ำตาลหลุดจากมือปลิวไปตามกระแสลม เป็นเวลานานที่แทอยองนั่งอยุ่ตรงนั้น จนชานยอลกลับมา
“เสียใจมากนักหรอ”
“..”
“ผมขอถามอะไรคุณอย่างนึงนะ คุณรักลูกผมจริงไหม ถ้าจริงคุณต้องวิ่งตามผมให้ทัน เพราะผมจะให้โอกาสคุณ แค่ครั้งเดียว” วี ที่ได้ยินแบบนี้ทำให้เขาสับสนอีกครั้ง ให้โอกาสเขาหรอ มันคืออะไร แต่ถ้าชานยอลให้โอกาสเขา ทำไมเขาต้องเลืกที่จะปฏิเสธ แทฮยองยืนเต็มความสูงของเขา
“ครับ” ทันทีที่แทฮยองขานรับอีกคน ชานยอลก็ปั่นจักรยานออกไปทันที และเมื่อแทฮยองตั้งสติได้ก็วิ่งตามชานยอลไปทันที เหมือนแต่ชานยอลจะไม่ได้สนใจกับแทฮยองเขาปั่นด้วยความเร็วปกติ แต่เสือหมอบ กับ เท้าของคนเรา ความเร็วนั้นต่างกันพอสมควร แทฮยองที่วิ่งมาเริ่มอ่อนล้า เหมือนโชคจะช่วยเขาชานยอลจอดจักรยานรอสัญญาณไฟเขียวอยู่ แต่ก็ไม่ทั้งหมดเมื่อชานยอลกำลังจะออกตัวก็เหมือนมีรถมาชนชาลยอล
ณ โรงพยาบาลห้องฉุกเฉิน
“เล่นละครให้ดีล่ะครับหมอ ไม่งั้นผมจะถอนใบประกอบโรคศิลป์คุณ”
“ได้ครับๆ ผอ. ผมแนะนำให้คุณนอนดีๆนะครับ ที่เหลือผมจะจัดการเอง” ไม่นานสายไฟเส้นเล็กๆพร้อมอุปกรณ์การแพทย์ ก็ถูกนำมาติดไว้กับชานยอลเหมือนกันคนไข้โดนรถชนทั่วๆไป และชานยอลก็นอนหลับไปเพราะความเพลียจากการแสดงละครเล็กๆน้อยๆของเขา แพทย์อยู่จัดการอุปกณ์พร้อมพยาบาลก็ได้เดินออกไปจากห้อง
“หมอครับ คุณปาร์คเป็นไงบ้างครับ” แทฮยองเดินเข้ามาหาแพทย์พร้อมคำถามทั่วๆไปที่หลายๆคนทำอย่างรีบร้อน
“คุณชานยอล ตอนนี้อาการยังไม่คงตัวเนื่องจากโดนรถใหญ่ชนทำให้ อวัยวะภายในบอบช้ำมาก ทำให้ไม่สามารถขยับตัวคนไข้เพื่อทำ การเอ็กสเรย์ได้ แล้วผมแนะนำให้ญาติคนไข้ทำใจนะครับ” เมื่อแพทย์กล่าวจบก็เดินจากแทฮยองไปยังห้องตรวจอื่น
หลังจากที่แทฮยองนั่งสิ้นหลังอยู่หน้าห้องฉุกเฉินเป็นระยะเวลาพอสมควร พยาบาลก็ได้เดินเข้ามาที่โถงห้องฉุกเฉิน
“ญาติของคุณปาร์คชานยอลค่ะ”
“ผมครับ”
“ตอนนี้ ย้ายคนไข้ไปที่ห้องพิเศษแล้วนะคะ ห้อง 2301 ขึ้นลิฟต์ทางนี้นะคะ”
“อ่า ขอบคุณครับ” แทฮยองโค้งให้กับพยาบาล แล้วเดินไปยังโถงลิฟต์ของโรงพยาบาล เมื่อลิฟต์มาถึงเตียงเข็นของโรงพยาบาลก็ถูกเข็นสวนออกมาพร้อมรับผ้าคลุมถึงหัว แน่นอนว่าเป็นภาพชวนขนหัวลุกของใครหลายๆคน แต่การตายเป็นเรื่องธรรมชาติของโลกใบนี้
“เชิญครับ” สิ้นเสียงของ บุรุาพยาบาลที่เข็นเตียงนั้นออกจากลิฟต์เสร็จแทฮยองก็เดินกล้าๆกลัวๆเข้าลิฟต์แล้วกดไปที่ชั้น 23 ทันที
“เดี๋ยวพ่อหนุ่ม รอยายหน่อย”
“ขอบใจนะพ่อหนุ่ม กดชั้น 19 ให้ยายหน่อย”
“ครับ” หลังจากที่แทฮยองกดลิฟต์ให้หญิงชราแล้ว บรรยากาศในลิฟต์ก็เงียบลงในทันใด มีเพียงแค่เสียงพัดลมระบายอากาศภายในลิฟต์เท่านั้น
“พ่อหนุ่มรู้อะไรไหม”
“ครับ”
“คนเราน่ะ เกิดมาแล้ว ก็ต้องตาย แต่จะตายยังไง มันขึ้นอยู่กับตัวเรา”
“ยังไงครับ”
“ถ้าเราดูแลตัวเองดีไม่ไปเบียดเบียนระไร พระเจ้าจะมอบพรการตายกับแบบเราไม่ทรมาน แต่หากเราทำผิด เราก็จะตายอย่างทรมาน และในวันพิพากษาเราจะถูกโยนทิ้งลงใน กองไฟกำมะถัน”
“..” ลิฟต์ยังคงวิ่งไต่ขึ้นไปสวนกับแรงโถ้มถ่วง จนตอนนี้มกล้ถึงชั้น 19 แล้วแต่ คำพูดของยายก็ทำให้แทฮยองสะดุดใจไม่น้อย และสติกลับมาอีกครั้งเมื่อเขารู้สึกเจ็บที่แขน
“ยายทำอะไรครับ”
“อ่า ถึงพอดีเลย มันคือเวรกรรมของหนูไง” ตอนนี้แทฮยองเริ่มเสียการทรงตัวเล็กน้อย ยาสลบความเข้มข้นสูง ถูกฉีดเข้าไปในร่างกายของแทฮยอง อีกเพียง 4 ชั้น
ด้านของชานยอล
“ตอนนี้ พยาบาลคิม ฉีดยาใส่ แทฮยองเสร็จแล้วค่ะ”
“โอเคครับ ขอโทษนะครับที่ทำให้วุ่นวาย”
“ผอ. ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้เลยหนิ่คะ”
“ถ้าคุณมีลูกแล้วมีแค่คนเดียว และคนที่คุณรักจากไป คุณจะรักเขามาก และยอมทำได้ทุกอย่าง”
“ผอ.รักลูกมากเลยสิ่นะคะ แล้วก็คุณคริสด้วย ”
“ครับ เราไปต้อนรับคนไข้ใหม่กันเถอะครับ” ชานยอลเดินออกจากห้องพักผู้ป่วย ไปยังหน้าลิฟต์ ที่ตอนนี้ ร่างของแทฮยองนั่งสลบอยู่บนรถเข็นแล้ว
“เอาไปห้องดับจิต เลยครับ ใครในนี้แต่งหน้าเก่งที่สุด แต่งหน้าผมให้ซีดที่สุดเหมือนคนที่ตายแล้ว”
ห้องดับจิต คงมีไม่กี่คนหรอกที่อยากจะเข้ามา สถานที่อันเย็นเฉียบพร้อมกับเตียงมีผ้าคลุม ใครบ้างล่ะอยากจะเข้ามาในสถานที่อันค่อนข้างน่ากลัวแห่งนี้ ชานยอลยืนอยู่ที่ประตูของห้องดับจิตแห่งนี้ และแทฮยองผูกมัดอยู่บนรถเข็นกลางห้อง เมื่อแทฮยองเริ่มรู้สึกตัวชานยอลก็เริ่มทำการแสดงอีกครั้ง
“นาย… หลอกลูกผม”
“..”
“นายหลอกลูกผม….” เสียงของชานยอลเริ่มทุ้มต่ำและยานขึ้น พร้อมๆกับเดินมาหาแทฮยอง ด้านแทฮยองเองที่รับรู้ได้ว่าห้องนี้คือห้องอะไร เมื่อชานยอลค่อยๆย่างกายมาหาเขา ด้วยใบหน้าอันซีดเซียวในชุดผู้ป่วยโรงพยาบาล เขาก้เริ่มที่จะทำการหนีแต่เชือกก็ทำหน้าที่ผูกมัดไว้ได้ดีทีเดียว
“ผมไม่ได้หลอกอะไรจองกุกนะครับ”
“นายมีคนอื่น แต่ยังมาบอกลูกผมว่าไม่มีอะไร นายหลอกลูกผม” มือของชานยอลมาลูบที่คอของแทฮยองแล้วแกล้งทำเหมือนจะบีบคออีกคน
“ผมกลัวแล้วครับ ฮือ…...” ความกลัวของแทฮยองมาถึงจุดไคลแม็ก เขาร้องออกพร้อมกับน้ำตามาเมื่อชานยอลกำลังจะบีบคอเขา ชานยอลค่อยๆถอยตัวออกห่างและออกจากห้องไปตอนที่แทฮยองไม่ทันได้สังเกต
“ทุกคนทำงานเหนื่อยมาเลยนะครับ พรุ่งนี้ผมอนุญาตให้หยุดงานได้นะครับ ขอโทษด้วยนะครับ” เมื่อชานยอลออกมาจากห้องดับจิต ก็กล่าวขอโทษกับ พยาบาลและหมอทุกๆคนที่ช่วยเขาที่ตอนนี้ยืนรออยู่ที่หน้าห้องดับจิต
“ตอนนี้ใครมีงานค้างบ้างครับ”
“ตอนนี้เราทุกคน เคลียร์งานเสร็จละคะ เพราะใกล้เปลี่ยนเวรแล้ว”
“งั้นไปหาอะไรกินกันครับ ผมเลี้ยงเอง” ชานยอลกล่าวออกมาพร้อมยิ้มน้อยๆให้กับทุกคน
“นานๆ ผอ.จะมาที่โรงพยาบาล ไม่พลาดค่ะ”
“พูดงี้เดี๋ยวผมให้ บัตรกำนัลห้างที่ผมทำงานเลยหนิ่ ไปๆๆ เดี๋ยวร้านปิดหมด” ชานยอลเดินออกจากโรงพยาบาลไปยังร้านอาหารใกล้ๆแถวนั้น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น