วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2557

BTS - [_____] [ V x TaeHyung x Kook ] Part 6



“คุณแม่สบายดีนะครับ”

“ขับรถเร็วเหมือนเดิมล่ะสิ่ อย่าขับเร็วนักสิ่ลูกแม่เป็นห่วงเราไม่แพ้แม่หรอกนะ”

“ครับๆ คราวหลังผมจะขับช้ากว่านี้นะครับ”

“แม่ว่าเรารถแม่ไปดีกว่านะ แม่กลัวเราขับเร็ว” หญิงที่สูงอายุกว่าเดินไปบอกคนใช้ในบ้านที่อยู่ใกล้ๆให้ไปเตรียมรถ เมื่อรถตู้ Volkswagen Caravelle รุ่น Business ก็มาจอดที่หน้าบ้าน หลังจากที่คนขับรถมาเปิดประตู ชานก็ก็ให้หญิงที่เขานับว่าเป้นแม่ขึ้นรถก่อนแล้วเขาจึงขึ้นตามไป





“พรุ่งนี้ลูกยอลว่างไหม”

“ว่างครับ ช่วงนี้มีอะไรหลายอย่างทำให้ผมคิดถึงพี่เขามาเลยล่ะครับแม่”

“แม่บอกแล้วไงว่าพี่เขาน่ะ ไม่ได้ไปจากเราเลย”

“ผมเชื่อครับแม่” มือของหญิงอาวุโส เอื้มมาจับมือของชานยอลที่ตอนนี้ ใบหน้าของชานยอลเหมือนคนกำลังจะร้องไห้แต่พยายามเก็บความรู้สึกไว้




“แม่เข้าใจนะว่าเราน่ะรู้สึกยังไง พรุ่งนี้ให้คนของแม่ไปรับไหม”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจ” บรรยากาศในรถเหมือนว่าจะจะค่อยดีเท่าไหร่ จนมาถึงห้องอาหารของโรงแรมหรูกลางกรุงโซลย่านคังนัม






ณ ประเทศไทย




วันแรกของการใช้ชีวิตในประเทศไทยของจองกุกเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ท่ามกลางผู้คนมากมายที่ไม่ได้ใช้ภาษาเกาหลี จองกุกออกจากหอพักมาเดินเล่นรอบๆ หอของเขาและมหาลัย เพราะอาการเบื่อที่ไม่รู้จะทำอะไรให้เขาอยู่ในหอพักทั้งวันๆ ก็คงจะไม่ไหวและจองกุกก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งคงจะขาดคำว่า ‘อาหาร’ ไปไม่ได้ ถึงแม้อยากจะลองอาหารแถวๆหอ แต่ก็คงไม่พ้นเถียงกับแม่ค้าคอเป็นเอ็นเพราะ ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงและพูดเกาหลีไปแม่ค้าคงไม่เข้าใจ และมาจบด้วยการหาอะไรกินคนเดียวที่ห้างแถวๆนั้น





ณ Terminal21




จองกุกกำลังเดินไปเรื่อยๆ ผ่านร้านต่างๆในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้




“อ่ะ I’m sorry” จองกุกที่กำลังเดินก้มหน้ามอง Samsung Galaxy S5 เครื่องใหม่ที่เพิ่งซื้อมาให่ก่อนมาไทย จนไม่ได้มองทาง ชนกับอีกคน




“I’m Okay, Are you korean?”

“ครับ ผมคนเกาหลี”

“ดีใจจังครับที่ได้เจอคนเกาหลีด้วยกัน” ขณะที่จองกุกก้มลงเก็บของอีกคนที่หล่นจากการเดินชนกันเมื่อสักครู่ แต่เมื่อเขาถามว่าเป็นคนเก่หลีหรือไม่ และสำเนียงภาษาอังกฤษที่แปบกๆไม่แพ้กัน จึงลองพูดภาษาเกาหลีออกไป แล้วทั้งสองก็เริ่มทำความรู้จักกัน ทั้งคู่เหมือนจะคุยกันถูกคอมากคงเป็นเพราะเป็นคนเกาหลีดวยกัน ทั้งคู่จึงตัดสินใจมานั่งคุยกันในบรรยากาศชิวๆ พร้อมเครื่องดื่มเย็นในในรานกาแฟสัญญาติอเมริกันแถวๆนั้น

“สรุปคือ เราเรียนที่เดียวกัน และผมเป็นรุ่นพี่นาย”

“ก็ประมาณนั้นแหละครับ ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”

“ครับงั้นพรุ่งนี้เจอกันนะครับ ให้พี่ไปรับที่หอไหม”

“ไม่เป็นไรครับ พี่ฮุน ”ทั้งสองคนหลังจากร่ำลากันแล้ว จองกุกก็มองเซฮุนที่กำลังเดินออกไปจากร้าน แล้วได้แต่ดีใจอยู่ในๆว่า อย่างน้อยเขาก็มีคนเกาหลีที่รู้จักและเรียนที่เดียวกับเขาถึงจะเป็นรุ่นพี่ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตามแต่ อย่างน้อยๆเขาก็ไม่ต้องลำบากพูดภาษาอังกฤษให้มันยากกว่าเดิม






เช้าของอีกวัน ณ ประเทศไทย ย่านอโศก





จองกุกกำลังเดินออกจากโถงลิฟต์แล้วตรงไปยัง ล้อบบี้ด้านหน้าของคอนโดที่เขามาเช่าอยู่และกำลังเดินออกจากคอนโดผ่านหน้าล้อบบี้แต่กับเจอ เซฮุนที่กำลังรีบวิ่งออกมาจากล้อบบี้ลิฟต์อย่างเร่งรีบไปที่ลานจอดรถมอร์เตอร์ไซข้างๆตึก





“คุณคะระวัง” เสียงของป้าแม่บ้านประจำคอนโดได้ร้องเรียกเตือนอีกคนที่กำลังวิ่งไปยังลานจอดรถ เพราะพื้นตรงนั้นมีน้ำหยดจากเพดานเพราะท่อดับเพลิงซึม ทำให้พื้นลื่นและแม่บ้านคนนี้กำลังยืนรอช่างหลังจากเอาผ้าเช็ดเท้าผืนใหญ่ๆมาปูไม่ให้น้ำนอง แต่เซฮุนไม่ทันสังเกตุทำให้




“เฮ้ย!!!!!” ‘โครม ครืด….’ เสียงของถังน้ำและป้ายพับตั้งพื้นสีเหลือบอกว่าพื้นลื่นได้ถูกร่างสูงชนเข้าอย่างแรงและลื่นไถลไปตามแรงที่ร่างสูงมาชน ด้านจองกุกที่ได้ยินเสียงโครมครามอยู่ข้างหลังจึงได้หันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วก็ได้พบกับเซฮุนที่นอนหงายท้องอยู่กับพื้นที่เปียกโชก ทำให้เขาได้แต่ขำพร้อมเดินไปหาอีกคนแล้วยื่นมือให้อีกคนจับแล้วลุกขุ้นมา




“ลุกไหวไหมครับ รุ่นพี่” เซฮุนเงยหน้ามองอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าแล้วความคิดของเขาทั้งสองตินนี้คือทำไมโลกถึงได้กลมกันแบบนี้ เขากับจองกุกได้อยู่ที่เดียวกัน แต่ตอนนี้เซฮุนต้องเก็บความสงสัยเอาไว้ก่อนแล้วเอื้อมมือของตัวเองไปจับมือของจองกุก แล้วดึงให้ตัวเองลุกขึ้นมายืนได้จากพื้นลื่นๆนี้




“ขอบใจนะ อยู่ที่นี่เหมือนกันหรอ”

“ครับ เจ็บไหมครับ”

“ไม่เจ็บหรอกครับ แม่บ้านครับขอโทษด้วยนะครับ” เซฮุนละจากจองกุกหลังตอบคำถามเสร็จแล้วหันไปกล่าวขอโทษกับแม่บ้านด้วยภาษาไทย แล้วเนียนจับมือพาจองกุกไปยังรถมอร์เตอร์ไซของเขาที่จอดอยู่ ณ ลานจอดรถของคอนโด Kawazaki Z250 สีขาวบริสุทธิ์ ได้ถอยออกมาจากซองจอดรถเมื่อออกจากซองตั้งลำพร้อมสตาร์ทรถแล้วเรียบร้่อยเซฮุนจึงเรียกให้จองกุกมาซ้อนท้าย




“มาครับ เดี๋ยวสายนะ” ทันทีเมื่อจองกุกซ้อนครัชมือก็ถูกปล่อยพร้อมกับรถที่พุ่งทยานออกไปข้างหน้าทันที จองกุกที่ยังไม่ทันได้จับที่จับด้านหลังของรถทำให้เขาต้อกอดเซฮุนแทน การซ้อนมอเตอร์ไซต์ ครั้งนี้มันทำให้เขาพอจะทำใจเรื่องของเขากับฝครบางคนได้บ้างแล้วล่ะ






ณ ประเทศเกาหลีใต้อีกฝั่งของ แทฮยอง ที่พยายามจะส่งไลน์และโทรหาจองกุกแต่มันกลับไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆนอกจาก คำว่า Read จากระบบของแอพพลิเคชั่น Line และมีแนวโน้มว่าจะส่งข้อความต่อไปเรื่อยๆจนวีเดินเข้ามาในห้องทำให้เขาต้องละสายตาจากโทรศัพท์ลง




“แทๆ พาพี่ไปเปิดซิมกับโทรศัพท์หน่อย”

“ได้ครับๆ ผมนึกว่าพี่ซื้อก่อนมาบ้านแล้วนะ”

“บอกแล้วไงว่าออกจากสนามบินก็มาบ้านเลย” วีเข้ามากอดแทฮยองหลวมๆ จากข้างหลังพร้อมฉวยโอกาสหอมแก้มอีกคนไป




“พะพอเลยนะ เดี๋ยวก้ไม่ได้ไปหรอก” แทฮยองตีมือของอีกคนที่ตอนนี้เริ่มไม่ใช่แค่กอด ทำให้วีต้องค่อยๆเอามือที่ตอนนี้ล้วงกำลังสัมผัสผิวกายของอีกคนใต้ผ้าคอทตอนออกมา

“ห้าๆ ได้ครับป่ะไปกัน” วีเดินจับมือแทฮยองมาจนถึงโรงจอดรถ รถPorsche คันเดิมถอยออกจากโรงจอดรถแล้วถูกขับออกไปยังย่านคังนัม ขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินไปยังร้านโทรศัพท์ แทฮยองก็ได้พบกับคนที่เกือบคุ้นเคย ปาร์คชานยอล ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่นี่แทฮยองจึงเลือกที่จะพาวีเดินอ้อมไปอีกทาง





ปาร์์คชานยอล Part




“ถ้าติดโคมตรงนี้ แบรนเนอร์อันนี้ก็ย้ายไปตรงนั้นนะ”

“แล้วทำไงกับที่ตรงกลานลานกิจกรรมครับ ไม่งั้นมันจะว่างมากเลยนะครับ”

“ที่ตรงนั้น ทำเป็นว่าติดอินเตอร์แอคทีฟฟอล*** ส่วนพื้นที่ข้างบน เอาเป็นว่าแล้วแต่คุณจะเลือกละกัน”

“คุณปาร์คครับ คุณหญิงเรียกพบครับ”

“ครับๆเดี๋ยวผมไป เอาเป็นว่าตามนี้นะครับ ส่วน ตัวอินเตอร์แอคทิฟฟอลคงมาส่งเราคืนนี้ ฝากด้วยนะครับ” เมื่อชานยอลคุยธุรกับช่างเสร็จแล้วจึงได้เดินไปที่ส่วนสำนักงานของห้าง พร้อมตรงไปที่ห้องผู้บริหาร




เมื่อชานยอลที่กำลังจะถึงห้องผู้บริหาร เลขาที่หน้าห้องก็ทักเขา “คุณปาร์คคะ ท่านประธานอยู่ที่ห้องทำงานคุณค่ะ” “ขอบคุณครับ" ชานยอลจึงเดินกลับไปยังห้องทำงานของตัวเอง




"สวัสดีครับแม่"



"จ้าลูกยอล แม่นึกว่าวันนี้ลูกจะพัก ลูกก็รู้หนิ่พรุ่งนี้วันอะไร แม่ไม่อยากให้ลูกเหนื่อยนะ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น